แท้จริงแล้ว ปัญหาการได้ยินหรืออาการหูตึง เราไม่สามารถป้องกันได้ 100% และจะพบว่าในบางรายมีสาเหตุเกิดจากประสาทหูเสื่อมตามวัย เช่น วัยชราหรือวัยสูงอายุ ซึ่งเป็นการเสื่อมที่ไม่สามารถป้องกันได้
แต่หากมาจากสาเหตุของการที่ต้องเจอ หรือสัมผัสกับเสียงดังเป็นเวลานานๆ และบ่อยครั้ง เราสามารถป้องกันได้ ดังนี้
5 วิธีป้องกันหูตึง ดังต่อไปนี้
1. หลีกเลี่ยงเสียงดัง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ สถานที่ไหนที่ต้องเผชิญกับเสียงดัง ก็ควรออกห่าง หลีกเลี่ยง หรือหาอุปกรณ์ป้องกัน เพราะไม่คุ้มเลยกับการที่เราจะมีปัญหาการได้ยินในอนาคต
แล้วจะสังเกตได้อย่างไร ว่าเสียงดังเกินไป?
- คุณต้องพูดเสียงดังกว่าเดิม เพื่อให้คู่สนทนาเข้าใจ
- คุณไม่ค่อยเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไร
- คุณรู้สึกปวดหู
- มีอาการหูอื้อ หรือได้ยินเสียงอู้อี้
ระดับความดังของเสียง จะถูกวัดออกมาเป็นค่าเดซิเบล (dB) ยิ่งเสียงดังมาก ค่าเดซิเบลยิ่งสูง เสียงที่ดังมากกว่า 85 เดซิเบลเป็นค่าที่สูงจนเสียงมีผลต่อการทำลายการได้ยิน จึงไม่ควรอยู่ในพื้นที่นั้นเป็นเวลานานๆ
ตัวอย่างระดับความดังของเสียง
- เสียงกระซิบ – 30 เดซิเบล
- เสียงพูดคุยทั่วไป – 60 เดซิเบล
- เสียงการจราจรคับคั่ง – 70 ถึง 85 เดซิเบล
- เสียงรถจักรยานยนต์ – 90 เดซิเบล
- เสียงเพลงผ่านหูฟังในระดับสูงที่สุด – 100 ถึง 110 เดซิเบล
- เสียงเครื่องบินกำลังขึ้น – 120 เดซิเบล
หรือคุณอาจลองใช้แอพในมือถือ ที่สามารถวัดระดับความดังของเสียง เพื่อเลี่ยงอยู่ในพื้นที่ที่ดังเกิน 85 เดซิเบลได้
2. ฟังเพลงแต่พอดี การฟังเพลงผ่านหูฟังถือว่าเป็นอันตรายต่อหูเป็นอย่างมาก จึงควรระมัดระวังในการฟัง ดังนี้
- ฟังในระดับความดังที่พอดี ไม่ดังจนเกินไป ซึ่งปกติแล้วไม่ควรเกิน 60% ของความดังสูงสุด
- ไม่ควรใช้หูฟังนานเกิน 1 ชั่วโมง หากจะใช้นานๆ ควรพักหูประมาณ 5 นาทีก่อนใช้ใหม่
แค่ลดระดับเสียงลดนิดหน่อย ก็ช่วยรักษาการได้ยินของคุณได้นานขึ้นได้
3. ป้องกันเวลาไปงานอีเวนท์ หากมีความจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมหรือออกงานอีเวนท์ที่มีเสียงดัง เช่น คอนเสิร์ต สนามกีฬา ที่เที่ยวกลางคืน ควรป้องกันดังนี้
- อยู่ห่างจากจุดที่มีเสียงดัง เช่น ลำโพงขยายเสียง
- พยายามพักหู โดยการออกห่างจุดที่มีเสียงดัง ทุก 15 นาที
- หลังจากกลับจากงานที่มีเสียงดัง ควรพักผ่อนอย่างเงียบๆ ประมาณ 18 ชั่วโมง
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน เช่น Earplug
4. ทำงานอย่างระมัดระวัง หากคุณต้องทำงานในที่ที่มีเสียงดังตลอดเวลา ควรคุยกับหัวหน้างานว่าจะมีผลต่อการได้ยินในอนาคต จึงควรให้ที่ทำงานช่วยป้องกันดังนี้
- หากเป็นไปได้ ควรปรับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้มีเสียงดังลดน้อยลง
- ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงดังติดต่อกันหลายชั่วโมงต่อวัน
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน เช่น Earplug
5. ตรวจการได้ยินสม่ำเสมอ โดยปกติแล้วควรตรวจการได้ยินทุกปี หรือหากรู้สึกว่ากำลังมีปัญหาการได้ยินก็ยิ่งรีบมาตรวจการได้ยินให้เร็วที่สุด นักแก้ไขการได้ยินหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะได้ให้คำแนะนำอย่างถูกต้องให้กับคุณ
แค่ 5 ข้อง่ายๆ แค่นี้ ก็ช่วยรักษาการได้ยินให้อยู่กับคุณไปนานๆ ได้
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
Facebook: m.me/hearingchiangmai
Line: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai