Posts

เลือก อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน อย่างเหมาะสม

เลือก อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน อย่างเหมาะสมตามระดับการสูญเสียการได้ยิน เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้มีอาการหูไม่ได้ยิน หูตึง หรือหูหนวก

ภาคเหนือ ไข้หูดับ ปีพ.ศ.2564

 

จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทย
ฉบับที่ 21/2564 ประจำสัปดาห์ที่ 22 (วันที่ 30 พ.ค. – 5 มิ.ย. 64)

 

รายงานพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 171 ราย

เสียชีวิต 11 ราย

 

กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน ได้แก่ อายุมากกว่า 65 ปี รองลงมาคือ อายุ 55 – 64 ปี และอายุ 45 – 54 ปี ตามลำดับ อาชีพที่พบผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ รับจ้าง รองลงมาคือ เกษตรกร ภาคที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ ภาคเหนือ รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ นครราชสีมา และสุโขทัย ตามลำดับ

 

      พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมและวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการป่วยด้วยโรคไข้หูดับ โรคไข้หูดับเกิดจาก เชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis)

 

โรคไข้หูดับ สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ


1. การบริโภคเนื้อหมู และเลือดหมูที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ

2. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ ทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค ติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา

 

 

อาการหลังได้รับเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส หรือไข้หูดับ ในไม่กี่ชั่วโมง จนถึง 5 วัน


  • มีไข้สูง
  • ปวดศีรษะรุนแรง
  • เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้
  • อาเจียน
  • ถ่ายเหลว
  • คอแข็ง
  • สูญเสียการได้ยินถึงขั้นหูหนวกถาวร
  • ข้ออักเสบ
  • เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังติดเชื้อรุนแรง
  • ติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้

 

กลุ่มเสี่ยงที่เมื่อได้รับเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ

 

กรมควบคุมโรค แนะนำวิธีป้องกันโรคไข้หูดับ ดังนี้


  1. ควรรับประทานหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น และเลือกซื้อเนื้อหมูที่ไม่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำ ล้างมือด้วยน้ำสบู่ทุกครั้งหลังสัมผัส หากรับประทานอาหารปิ้งย่าง ขอให้ทำให้สุกก่อนเสมอ และแยกอุปกรณ์ที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและดิบ
  2. ผู้ที่สัมผัสกับหมู โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมใส่เสื้อและกางเกงที่ปกปิดมิดชิด ใส่รองเท้าและ ถุงมือทุกครั้งเมื่อเข้าไปทำงานในคอกสุกร หลีกเลี่ยงการจับซากสุกรที่ตายด้วยมือเปล่า ล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด  และผู้จำหน่าย ควรจำหน่ายเนื้อหมูที่มาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ทำความสะอาดแผงด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อทุกวันหลังเลิกขาย และเก็บเนื้อหมูที่จะขายในอุณหภูมิที่ตํ่ากว่า 10°C

 

      ทั้งนี้ หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังสัมผัสหมูที่ป่วยหรือรับประทานอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูไม่สุก ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการรับประทานหมูดิบให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดอัตราการหูหนวกและการเสียชีวิตได้

 

ข้อมูล : สายด่วนกรมควบคุมโรค สอบถามเพิ่มเติมได้ โทร. 1422

 

 

 


เราพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาการได้ยิน หูหนวก หูดับ

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

10 ปัจจัย กับประสิทธิภาพการใช้ประสาทหูเทียม

 

        ด้วยสาเหตุและปัจจัยของผู้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน ภายหลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วมีความเป็นไปได้ที่ความสามารถในการรับฟังเสียง หรือการได้รับประโยชน์จากการใช้งานประสาทหูเทียมนั้นจะไม่เท่ากัน

 

10 ปัจจัย กับประสิทธิภาพ “การใช้ประสาทหูเทียม”


1. ระยะเวลาที่สูญเสียการได้ยิน หากสูญเสียการได้ยินในช่วงสั้น มีแนวโน้มที่หลังผ่าตัดจะมีความสามารถทางการได้ยินดีกว่าผู้ที่สูญเสียการได้ยินเป็นเวลานาน

2. อายุที่เริ่มสูญเสียการได้ยิน เด็กหรือผู้ใหญ่ที่สูญเสียการได้ยินภายหลังมีภาษาแล้ว มีแนวโน้มที่หลังผ่าตัดจะมีความสามารถทางการได้ยินดีกว่าผู้สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด ที่ได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมช้ากว่าเวลาอันควร

3. อายุที่ทำการผ่าตัด สำหรับผู้ที่หูหนวกก่อนมีภาษา หากได้รับการผ่าตัดเมื่ออายุน้อยจะมีความสามารถทางการได้ยินดีกว่าผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเมื่ออายุมาก

4. ระยะเวลาที่ใช้ประสาทหูเทียม ประสบการณ์ในการใช้อุปกรณ์ประสาทหูเทียมจะช่วยเพิ่มทักษะในการรับรู้เสียงพูด

5. ลักษณะโครงสร้างของหูชั้นใน หากมีความผิดปกติของโครงสร้าง เช่น มีเพียงครึ่งรอบ หรือมีหินปูนอยู่ภายในทำให้ไม่สามารถใส่ขดลวดเข้าไปในหูชั้นในได้อย่างสมบูรณ์

6. ระดับการได้ยินที่เหลืออยู่ ผู้ที่มีการได้ยินเหลืออยู่ มีแนวโน้มที่หลังผ่าตัดจะรับรู้คำพูดได้ดีกว่าผู้ที่ไม่เหลือการได้ยินเลย

7. ความพิการซ้ำซ้อน หากมีความผิดปกติเกี่ยวกับสติปัญญา สมอง หรือจิตใจ จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้การฟังและการพูด

8. สภาพแวดล้อมทางการศึกษา เด็กควรได้รับการส่งเสริมให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการใช้การได้ยินและการพูด

9. จำนวนช่องสัญญาณที่สามารถใช้ได้ เพื่อการรับรู้คำพูดควรมีอย่างน้อย 5 – 8 ช่องสัญญาณ

10. จำนวนของเม็ดอิเล็กโทรดประสาทหูเทียม ที่ใส่เข้าไปภายในหูชั้นใน (อวัยวะก้นหอย) หากมีจำนวนเม็ดอิเล็กโทรดมาก ยิ่งทำให้เกิดการกระตุ้นมาก

 

 

การเลือกยี่ห้อประสาทหูเทียมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งานประสาทหูเทียมให้กับผู้ผ่าตัดได้ดียิ่งขึ้น

 

 

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสาทหูเทียม ได้ที่

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

ประสาทหูเทียม (สำหรับเด็ก)

 

ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม

กรณีเด็ก มีหลักเกณฑ์เบื้องต้น ดังนี้


  • หูหนวก ทั้ง 2 ข้าง (สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับ 80 เดซิเบลขึ้นไป – ABR, ASSR ระดับ 90 เดซิเบลขึ้นไป)
  • อายุแรกเกิด ถึง 4 ปี ที่ไม่รับรู้เสียงพูด และไม่มีพัฒนาการด้านทักษะการฟัง การพูด และภาษา (สำหรับมูลนิธิ เด็กต้องอายุไม่เกิน 3 ขวบ)
  • อายุมากกว่า 5 ปี แต่ยังจำแนกคำพูดได้น้อยกว่า 50% ไม่ได้ประโยชน์จากการใส่เครื่องช่วยฟัง
  • ผู้ปกครองต้องทุ่มเท เอาใจใส่ และส่งเสริมการมีพัฒนาการทางด้านทักษะการฟัง และการพูดของเด็กเป็นอย่างดี

หมายเหตุ : อายุ ไม่ได้ระบุแน่ชัด ขึ้นอยู่กับการประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัดของทีมแพทย์ และการประเมินความพร้อมของครอบครัวในการฟื้นฟูภายหลังการผ่าตัด

          สำหรับความคาดหวังของการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กนั้น ผู้ปกครองจะเป็นผู้คาดหวังในการผ่าตัดเสียส่วนใหญ่ว่า หลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วเด็กจะต้องได้ยินและมีพัฒนาการตามช่วงวัยเหมือนเด็กปกติทั่วไป ซึ่งความเป็นจริงแล้ว สำหรับเด็กที่มีการสูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด การรับรู้และพัฒนาการของเด็กจะช้ากว่าเด็กปกติ

    และเมื่อเข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม พัฒนาการของเด็กจะพัฒนาได้ช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของผู้ปกครองและความพร้อมของตัวเด็กเอง

 

 

          ดังนั้นหลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม ผู้ปกครองจำเป็นต้องให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ให้ความสำคัญกับการฝึกฟัง ฝึกพูด เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กเติบโตอย่างสมวัย (กรณีเด็กที่ทำการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วไม่ได้รับการฝึกฟัง ฝึกพูด อาจทำให้เด็กเลือกใช้ภาษามือ และท่าทางแทนการสื่อสารด้วยภาษาพูด)

 

การสูญเสียการได้ยินเป็นเวลานาน ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กได้ และควรได้รับการฟื้นฟู ไม่เกิน 6 เดือน

 

สอบถามข้อมูลเทคโนโลยีประสาทหูเทียมเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

ประสาทหูเทียม กับความคาดหวังของผู้ผ่าตัด

 

ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม กรณีผู้ใหญ่

มี 4 หลักเกณฑ์เบื้องต้น ดังนี้


  1. หูหนวกทั้ง 2 ข้าง (สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับ 80 เดซิเบลขึ้นไป – ABR, ASSR ระดับ 90 เดซิเบลขึ้นไป)
  2. ไม่ได้รับประโยชน์จากการใส่เครื่องช่วยฟัง / หูดับเฉียบพลัน / ติดเชื้อไวรัส / เสื่อมตามวัย
  3. สุขภาพแข็งแรง ไม่มีอุปสรรค หรือข้อห้ามในการเข้ารับการผ่าตัด
  4. มีความต้องการสื่อสารด้วยภาษาพูด (พูดคุยกับคนรอบข้าง ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ)

หมายเหตุ:  อายุไม่ได้ระบุแน่ชัด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสภาพร่างกายแต่ละบุคคล

 

       ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม ย่อมคาดหวังผลจากการผ่าตัดว่า หลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมจะต้องได้ยินชัดเจนเหมือนคนปกติ 100%  ซึ่งความเป็นจริงแล้วผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียมจะได้ยินเหมือนคนปกติได้นั้นต้องใช้เวลาในการปรับตัว โดยตัวผู้ผ่าตัดเองต้องมีการฝึกฟัง ฝึกพูด สร้างความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ประสาทหูเทียมเสียก่อน

 

          การฟังและการพูดให้ได้เหมือนคนปกติทั่วไปขึ้นอยู่กับชั่วโมงการฝึกฟัง ฝึกพูด และความใส่ใจของผู้ผ่าตัด รวมถึงความร่วมมือของญาติผู้ผ่าตัดในการดูแลและคอยสนับสนุนให้กำลังใจผู้ผ่าตัด

 

 

           สำหรับผู้ใหญ่ที่มีภาษาพูดมาก่อนแล้วเกิดการสูญเสียการได้ยินในภายหลัง และได้เข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมโดยเร็ว จะช่วยให้ผู้ผ่าตัดฟื้นภาษาที่หายไปได้เร็วขึ้น การฟังและการพูดให้ได้เหมือนคนปกติจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

“ประสาทหูเทียมจะอยู่กับท่านไปตลอดชีวิต”

ท่านควรตระหนักถึงความสำคัญของการใส่เครื่อง การฝึกฟัง และการฝึกพูด
เพราะยังมีผู้สูญเสียการได้ยินอีกมากที่อยากได้รับโอกาสการได้ยินแบบท่าน

 

 

สอบถามข้อมูลเทคโนโลยีประสาทหูเทียมเพิ่มเติม ได้ที่

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
Facebook : m.me/hearingchiangmai
Line : line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

Cochlear Government

 

สิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลประสาทหูเทียม รายการอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค
ตามหลักเกณฑ์ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ประเภทและอัตราค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค ประกาศ ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2560 มีดังนี้

 

 

ชุดประสาทหูเทียม cochlear Implant / ชุดประสาทหูเทียม ชนิดฝังก้านสมอง (Brainstem implant)                 1 ชุด    850,000 บาท

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสิทธิการเบิกชุดประสาทหูเทียม

  1. การผ่าตัดประสาทหูเทียม หรือฝังประสาทหูเทียมชนิดฝังที่ก้านสมอง ผู้ป่วยแต่ละรายสามารถเบิกได้คนละ 1 ชุด เท่านั้น
  2. ใบรับรองแพทย์ ผู้ทำการผ่าตัดจะต้องระบุข้อบ่งชี้ครบทุกข้อ พร้อมทั้งหลักฐานการตรวจการได้ยิน รับรองโดยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและตรวจสติปัญญาหรือพัฒนาการในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี รับรองโดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา มาเพื่อประกอบการเบิกจ่ายด้วย

 

คุณสมบัติของชุดประสาทหูเทียม

  1. มีจำนวน Electrode ตั้งแต่ 12 Electrode ขึ้นไป
  2. ได้รับรองการใช้จากองค์การอาหารและยาจากสหรัฐสอเมริกา (US FDA) หรือ European Medical Agency (EMA)
  3. มีการรับประกัน อุปกรณ์ในร่างกาย ไม่น้อยกว่า 10 ปี และเครื่องแปลงสัญญาณเสียงพูด (Speech Processor) ไม่น้อยกว่า 5 ปี

 

ชุดอุปกรณ์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

  1. ส่วนที่อยู่ในร่างกาย ประกอบด้วยอุปกรณ์สำคัญ คือ ตัวรับสัญญาณ (Receiver) และขั้วไฟฟ้า (Electrode array) ชนิดหลายขั้ว (Multiple Electrodes) ตั้งแต่ 12 Electrode ขึ้นไป
  2. ส่วนที่อยู่นอกร่างกาย ประกอบด้วย
- เครื่องแปลงสัญญาณเสียงพูด (Speech processor)                                   ชิ้นละ 200,000 บาท
  หมายเหตุ เบิกได้ 1ชิ้น/5 ปี ในกรณีชำรุดจนซ่อมไม่ได้
- ขดลวดส่งต่อสัญญาณ และแม่เหล็ก (Transmitter/Magnet)                            ชิ้นละ 10,000 บาท
  หมายเหตุ เบิกได้ไม่เกิน 1 ชิ้น/ปี ในกรณีชำรุดจนซ่อมไม่ได้
- สายไฟเชื่อมต่อ เครื่องแปลงสัญญาณเสียงพูดเข้ากับขดลวดส่งต่อสัญญาณ (Coil cable)          ชิ้นละ 3,500 บาท
  หมายเหตุ เบิกได้ไม่เกิน 1 ชิ้น/ปี ในกรณีชำรุดจนซ่อมไม่ได้
- แบตเตอรี่ชนิดประจุไฟฟ้าใหม่ได้ (Rechargeable battery)                             ชิ้นละ 19,000 บาท
  หมายเหตุ เบิกได้ไม่เกิน 1 ชุด (2 ชิ้น)/2 ปี
- แบตเตอรี่ชนิดประจุไฟฟ้าใหม่ไม่ได้                                                  ชิ้นละ 9,000 บาท
  หมายเหตุ เบิกได้ไม่เกิน 1 ชุด (180 ก้อน)/ปี และราคาไม่เกินก้อนละ 50 บาท

หมายเหตุ สิทธิประกันสังคม ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลประสาทหูเทียมได้

 

 

หลักเกณฑ์และข้อกำหนดสำหรับผู้ต้องการผ่าตัดประสาทหูเทียม : คุณสมบัติผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียม

ขั้นตอนและกระบวนการผ่าตัดประสาทหูเทียม ที่ควรรู้ : ขั้นตอนการผ่าตัดประสาทหูเทียม

 

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิการเบิกประสาทหูเทียม เราพร้อมให้คำปรึกษา

 

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

3 ขั้นตอน การผ่าตัดประสาทหูเทียม

 

การผ่าตัดประสาทหูเทียม เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินในระดับรุนแรงถึงหูหนวก และไม่ได้รับประโยชน์จากเครื่องช่วยฟัง

 

          ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์จะพิจารณาให้ประสาทหูเทียมเป็นวิธีแก้ปัญหาการได้ยินในระยะยาว มีขั้นตอนและกระบวนการ 3 ขั้นตอน ดังนี้ คือ ขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด การเตรียมตัวผ่าตัด และการดูแลและฟื้นฟูหลังผ่าตัด

 

3 ขั้นตอน การผ่าตัดประสาทหูเทียม

1. ขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด


ผู้ป่วยที่ผ่าตัดประสาทหูเทียมต้องได้รับการประเมินก่อนผ่าตัด โดยกระบวนการประเมินความเหมาะสม และความพร้อมของร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าประสาทหูเทียมคือคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวผู้ป่วยเอง

  • การทดสอบการได้ยิน เช่น ระดับการได้ยิน ความเข้าใจภาษา การทำงานของระบบประสาทการได้ยิน
  • การทดสอบด้านการแพทย์ การตรวจร่างกายและทำ MRI เพื่อตรวจสุขภาพโดยทั่วไป ได้แก่ การซักประวัติผู้ป่วย สาเหตุของการสูญเสียการได้ยิน การตรวจความผิดปกติของชั้นหู การประเมินโครงสร้างภายในของหู รวมถึงการตรวจเลือด ปัสสาวะ ปอด หัวใจ เพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของร่างกายก่อนผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมด้วยการดมยาสลบ
  • การทดสอบด้านจิตวิทยา เพื่อรับรองความสามารถในการรับมือกับการผ่าตัด และมีส่วนร่วมในการติดตามผล ดูแลและรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพภายหลังการผ่าตัด

 

2. ขั้นตอนการเตรียมตัวผ่าตัด


กระบวนการผ่าตัดประสาทหูเทียม ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง สำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้นพบน้อยมาก ศัลยแพทย์จะเป็นคนปรึกษาเรื่องความเสี่ยงกับตัวผู้ป่วยเอง

  • ผู้ป่วยควรงดน้ำ อาหารทุกชนิด ก่อนเวลาผ่าตัดประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยที่ดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ควรงดเว้นก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หรือตามคำสั่งของแพทย์ (เพื่อป้องกันผู้ป่วยที่ต้องใช้วิธีดมยาสลบ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากปอดทำงานหนัก ส่งผลให้ปอดอักเสบจากการสูดสำลัก หรือไอมากหลังผ่าตัดได้)
  • ผู้ป่วยควรงดใช้ยา 1 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด (แอสไพริน หรือยาต้านการอักเสบอื่น ๆ) หากเป็นยารักษาโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์
  • การผ่าตัดใช้วิธีการดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

การดำเนินการ ประกอบด้วยสองส่วน :
      การฝังของตัวรับสัญญาณ– ตัวรับสัญญาณที่ติดตั้งอยู่บนกระดูกหลังใบหูภายใต้ผิวหนัง อิเล็กโทรดมีการเชื่อมต่อไปยังตัวรับส่งเสียงโดยตรงกับประสาทหู
       การเชื่อมต่อภายนอกของตัวแปลงสัญญาณ– ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ สำหรับการเปิดเครื่องประสาทหูเทียม (ตัวแปลงสัญญาณเสียง) หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น

 

3. ขั้นตอนการดูแลและฟื้นฟูหลังผ่าตัด


  • เมื่อผ่าตัดเสร็จ แพทย์จะให้ผู้ป่วยอยู่พักฟื้นเพื่อสังเกตอาการประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จากนั้นจะย้ายผู้ป่วยไปพักฟื้นต่อที่หอผู้ป่วย
  • ผู้ป่วยใช้เวลาในการพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 3 – 4 วัน
  • แพทย์จะให้ยาแก้ปวด เมื่อผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดหลังการผ่าตัด
  • ผู้ป่วยจะถูกสั่งงดน้ำ และอาหารทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการผ่าตัด

เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นประมาณ 4 สัปดาห์ นักแก้ไขการได้ยินจะทำการเปิดเครื่องประสาทหูเทียม และติดตั้งโปรแกรมในอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับระดับการได้ยิน และปรับการตั้งค่าการติดตามผลในครั้งต่อๆ ไป นักแก้ไขการได้ยินจะทำการติดตามผลเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 หรือ 2 ครั้ง

 

            ผลสําเร็จและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัด การได้ยินในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม จะไม่เหมือนการได้ยินปกติ ผู้ป่วยต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนจึงจะสามารถฟัง แปลผล และสื่อสารได้ จึงมีความจําเป็นที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากครอบครัว และบุคลากรหลายด้าน ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ นักแก้ไขการพูด ครูการศึกษาพิเศษ หรือ ครูที่โรงเรียน เพื่อน ที่ต้องเอาใจใส่ พูดคุยกระตุ้นเพื่อให้ได้ฝึกฟังและพูดตลอดเวลา

สามารถอ่านข้อมูลคุณสมบัติผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียมได้ที่ คุณสมบัติผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียม

 


หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัดประสาทหูเทียม เราพร้อมให้คำปรึกษา

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
Facebook: m.me/hearingchiangmai
Line Official: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai