ขั้นตอนที่ 1
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมประจำวันของคุณ เช่น 50% อยู่ภายในบ้าน : 50% กิจกรรมนอกบ้าน, 70% อยู่ในที่ทำงาน : 30% อยู่ภายในบ้าน หรือ 30% อยู่ภายในบ้าน : 70% กิจจกรรมนอกบ้าน (ตีกอล์ฟ, ร้านอาหาร, ประชุม, คุยธุรกิจ) เป็นต้น
การเลือกเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาการได้ยิน เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณได้ยินเสียงชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีความสุขมากขึ้น
สภาพแวดล้อมเสียงดังรบกวนเป็นปัญหาที่ชวนให้ผู้มีปัญหาการได้ยินรู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา นอกจากเสียงคำพูดที่ฟังไม่ค่อยได้ยินแล้ว ยังต้องเผชิญกับเสียงสภาพแวดล้อมที่ดังรบกวนแข่งกับเสียงคำพูดของคู่สนทนา ซึ่งเพิ่มความยากในการฟัง ต้องใช้สมาธิจดจ่อกับเสียงคำพูดจนเกิดอาการเหนื่อยล้า และความเครียดตามมาได้
หากคุณยังใช้งานเครื่องช่วยฟังเทคโนโลยีรุ่นเก่าที่ล้าสมัย ทำงานด้วยการขยายเสียงทุกย่านความถี่เสียงเท่ากัน หรือเครื่องช่วยฟังที่โหมดการฟังไม่รองรับสภาพแวดล้อมของคุณ อาจเป็นเรื่องยากสำหรับการที่จะฟังได้ดีและฟังได้สบายในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการสนทนา เช่น เลือกบริเวณที่เงียบสงบ เสียงรบกวนน้อย หรือใช้วิธีอ่านริมฝีปากเข้ามาช่วย
เทคโนโลยีเครื่องช่วยฟังสมัยใหม่ ทำงานด้วยชิปเซ็ตขนาดเล็ก มีระบบ Machine learning เรียนรู้สภาพแวดล้อม เพื่อแยกแยะระหว่างคำพูดและเสียงรบกวนได้ดีขึ้น ทำให้การลดเสียงรบกวนมีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้คุณประหยัดเวลาและประหยัดพลังสมอง ลดความหงุดหงิด อารมณ์ฉุนเฉียว เพิ่มความสุข และมีสุขภาพจิตที่ดี
หากคุณใช้งานเครื่องช่วยฟังเทคโนโลยีเก่า และลองปรับเปลี่ยนทุกวิธีแล้ว การได้ยินยังไม่ดีขึ้น ฟังได้ยาก หรือใช้พลังสมองในการประมวลผลเยอะเกินไป การเลือกใช้เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยปรับปรุงการได้ยิน ลดปัญหาเสียงรบกวน เครื่องช่วยฟังเทคโนโลยีใหม่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยแก้ปัญหาสำหรับคุณ
หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศติดชายทะเล คุณอาจพบกับเสียงลมและเสียงคลื่นทะเลอยู่ตลอดเวลา เครื่องช่วยฟังที่เหมาะกับคุณ ควรมีคุณสมบัติ เช่น
• Wind Noise Protector : ช่วยรักษาความสบายและการพูด เมื่อมีลมพัด
• Smart Noise Reduction : ลดเสียงรบกวนรอบข้างและรักษาความสบาย โดยไม่ลดทอนความสามารถในการได้ยินของเสียงรบกวน
หากคุณต้องทำงาน Reception หรืออยู่ภายในโถงอาคารเป็นส่วนใหญ่ ควรพิจารณาดังนี้
• ไมโครโฟน Smart Directionality : ระบบจัดการทิศทางเสียงอัจฉริยะ รับเสียงจากด้านหน้า และลดเสียงรบกวนด้านข้างและด้านหลัง ทำให้เสียงพูดจากด้านหน้าชัดเจน
• กรณีเครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู ควรเป็นเทคโนโลยี Advance ปรับตั้งค่าได้ละเอียด หากเป็นรุ่นพื้นฐาน คุณอาจสัมผัสได้ถึงเสียงก้อง
• ระบบลดเสียงก้อง Program Options โหมดการฟังในพื้นที่ห้องโถง เช่น โบสถ์ ห้องสมุด
หากกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ของคุณอยู่แต่ภายในบ้านหรือภายในตัวอาคาร ที่มีแต่ความเงียบสงบ คุณสมบัติเครื่องช่วยฟังที่คุณควรพิจารณา เช่น
• ไมโครโฟน Fixed Omni : ระบบการได้ยินขยายเสียงจากทุกทิศทางและทุกมุม เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ช่วยให้คุณได้ยินเสียงสัญญาณ เช่น เสียงกริ่งประตู เสียงไมโครเวฟ
• Soft Noise Manager : ช่วยรักษาความสบายในการฟัง
หากคุณไม่แน่ใจในสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญอยู่ ว่าคุณสมบัติเครื่องช่วยฟังใดที่จำเป็นและควรมี ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟังช่วยคุณได้
นอกจากระดับการได้ยินแล้ว สภาพแวดล้อมยังเป็นส่วนสำคัญในการเลือกเครื่องช่วยฟัง ต่อไปนี้เป็น 5 ขั้นตอน การเลือกเครื่องช่วยฟังกับผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง เพื่อให้การเลือกเครื่องช่วยฟังของคุณเป็นเรื่องง่าย และได้เครื่องช่วยฟังที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด
การเลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องช่วยฟังเข้ามาปรับปรุงการได้ยิน ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อความสุขของครอบครัวและสังคมรอบข้าง
การได้ยินดี ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาทั่วไปในครอบครัว เพื่อน และผู้คนในสังคม
บทสนทนาล้วนเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมีคุณค่า
ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมให้การสนับสนุน