แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง ขุมพลังในการขับเคลื่อนเครื่องช่วยฟังของคุณ ถือเป็นส่วนสำคัญและจำเป็นที่สุดสำหรับผู้ใช้งานเครื่องช่วยฟังก็ว่าได้
แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง หรือ ถ่านเครื่องช่วยฟัง แบบใช้แล้วทิ้ง ในปัจจุบันเป็นแบบเม็ดกระดุม ชนิดซิงค์แอร์ (Zinc-Air) ประจุไฟเกิดจากการทำปฏิกิริยาของแร่ธาตุสังกะสีและออกซิเจนในอากาศ เมื่อดึงสติกเกอร์ออกจากก้อนแบตเตอรี่ ออกซิเจนในอากาศจะผ่านรูขนาดเล็กเข้าไปยังแร่ธาตุสังกะสีที่อยู่ภายในก้อนแบตเตอรี่
การวางแบตเตอรี่ทิ้งไว้ 1 – 2 นาที ถือเป็นการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ มั่นใจได้ว่า แบตเตอรี่ทุกก้อนของคุณจะสดใหม่เสมอ หลังจากคุณดึงสติกเกอร์ออก
เครื่องช่วยฟัง
สานสัมพันธ์ให้แนบชิด
เบอร์ 10
สีเหลือง (A 10)
สำหรับเครื่องช่วยฟัง
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย : 3 – 5 วัน
แบตเตอรี่ขนาด 10 มีขนาดเล็กที่สุด ใช้สำหรับเครื่องช่วยฟังขนาดเล็กแบบในช่องหู ประเภท CIC และ IIC เครื่องช่วยฟังรูปแบบขนาดเล็กนี้ไม่สามารถบรรจุความสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายไว้ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดเล็ก จำนวนชั่วโมงการใช้งานจึงสั้นด้วยเช่นกัน
เบอร์ 312
สีน้ำตาล (A 312)
สำหรับเครื่องช่วยฟัง
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย : 4 – 7 วัน
แบตเตอรี่ขนาด 312 มักใช้กับเครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู ITC ITE และแบบทัดหลังหูมีลำโพงในช่องหูขนาดเล็ก RITE จำนวนชั่วโมงการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ขนาด 10 มาก หากทำการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์อื่น จำนวนชั่วโมงการใช้งานก็จะลดลงตามความถี่ในการเชื่อมต่อ
เบอร์ 13
สีส้ม (A 13)
เบอร์ 675
สีน้ำเงิน (A 675)
สำหรับเครื่องช่วยฟัง
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย : 4 – 7 วัน
แบตเตอรี่ขนาด 675 แบตเตอรี่ที่ให้กำลังไฟมากที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุด สำหรับเครื่องช่วยฟังกำลังขยายสูง จำนวนชั่วโมงการใช้งานของแบตเตอรี่ขนาด 675 มักจะใกล้เคียงกับแบตเตอรี่ขนาด 13 เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 675 ต้องใช้พลังงานมากกว่า
ทำไม แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง หมดเร็ว?
ระยะเวลาการทำงานของแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังจะแตกต่างกันไปตามชั่วโมงการใช้งานต่อวัน การขยายเสียง และประเภทของเครื่องช่วยฟังที่ใช้ ปัจจัยอื่นๆ เช่น การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์อื่น ชั่วโมงการใช้งานจะลดลงตามความถี่และระยะเวลาในการสตรีม
โปรดทราบว่า อุณหภูมิที่สูงเกินไปและระดับความชื้นสูง มีผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ และหมดเร็ว
แบตเตอรี่ที่ยาวนาน
บทสนทนายิ่งสนุกมากขึ้น
สภาพแวดล้อม พื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง เสื่อมสภาพ และหมดเร็ว
ความชื้น ปัจจัยสำคัญสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเครื่องช่วยฟัง และแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังของคุณ แบตเตอรี่ที่ถูกจัดเก็บในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงจะเกิดคราบออกไซด์ มีลักษณะสีขาว หากพบลักษณะดังกล่าวนั่นอาจหมายถึงแบตเตอรี่ของคุณกำลังเสื่อมสภาพ
ความชื้นที่ติดอยู่กับแบตเตอรี่ อาจทำให้รังถ่านเครื่องช่วยฟังของคุณเกิดสนิม และหากปล่อยทิ้งไว้ อาจลุกลามไปยังแผงวงจรที่อยู่ภายในเครื่องช่วยฟังของคุณได้
ตรวจสอบสภาพแวดล้อมพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ของคุณ หากพบว่าภายในห้องมีไอน้ำ คราบน้ำ หรือละอองน้ำเกาะอยู่ตามกระจก หน้าต่าง วอลเปเปอร์ แสดงว่าพื้นที่นั้นมีความชื้นสูง ไม่เหมาะแก่การเก็บอุปกรณ์
นอกจากนี้ ความชื้นที่สูงยังเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเหล่าจุลินทรีย์อย่างเชื้อรา ไรฝุ่น และแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น อาการภูมิแพ้ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหืด รู้สึกเจ็บคอ มีน้ำมูก อาจทำให้ปวดหัว ดวงตาอ่อนล้า แม้แต่คนที่มีสุขภาพดีอาจประสบปัญหาในการหายใจ หายใจลำบาก รู้สึกไม่สบายตัว และสมาธิไม่ดีในสถานที่ที่มีความชื้นสูง
อุณหภูมิสูง จากความร้อนที่สะสม เช่น การวางตากแดด การเก็บไว้ในรถยนต์ สภาพแวดล้อมดังกล่าวอาจทำให้ประสิทธิภาพแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังของคุณลดลง เกิดการเสื่อมสภาพ ผิดรูป บิดเบี้ยว และไม่สามารถใช้งานได้
ความร้อนสามารถทำให้กาวติดสติกเกอร์บนก้อนแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หลุดลอก ติดไม่สนิท ทำให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาสร้างประจุไฟขึ้น และเมื่อหยิบใช้งานจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณสั้นลง
เช่นเดียวกับสิ่งของที่ถูกวางกลางแดดเป็นระยะเวลานาน สีที่เริ่มซีดจาง วัสดุที่เริ่มเปื่อย และเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ร่างกายคนเราก็เช่นกัน ไม่มีใครสามารถทนทานกับสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานานๆ ได้
ลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่
ด้วยการใช้งาน และจัดเก็บอุปกรณ์อย่างถูกวิธี
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังและลดการสิ้นเปลือง
1. ควรเก็บรักษาแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความชื้นหรืออุณหภูมิสูง
2. เมื่อดึงสติกเกอร์ออก ทิ้งแบตเตอรี่ไว้ 1 – 2 นาที เพิ่มพลังงานให้ยาวนานขึ้น
3. การถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องช่วยฟังเมื่อไม่ใช้งาน เก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยและแห้ง จะช่วยป้องกันการกัดกร่อนและความเสียหายจากความชื้นที่ติดอยู่ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเครื่องช่วยฟังของคุณ
4. เมื่อนำแบตเตอรี่ออกจากเครื่องช่วยฟัง การเปิดรังถ่านเครื่องช่วยฟังทิ้งไว้ และเก็บไว้ในกล่องเก็บที่บรรจุสารดูดความชื้น จะช่วยระบายความชื้นออกจากตัวเครื่องช่วยฟัง ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับอุปกรณ์ของคุณ
5. รักษาอุปกรณ์ของคุณให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ เช็ดแบตเตอรี่ด้วยผ้าแห้งก่อนทุกครั้ง
6. ใช้สารดูดความชื้น และเครื่องอบไล่ความชื้น ลดความชื้นสะสมให้กับอุปกรณ์
แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังที่ใช้แล้ว ทิ้งอย่างไร ให้ปลอดภัย
แบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง Zinc Air จัดอยู่ในประเภทขยะที่ไม่อันตราย ปราศจากสารปรอท สามารถแยกใส่ถุงและทิ้งกับขยะในครัวเรือน หรือปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บขยะในพื้นที่ที่คุณอยู่อาศัย หรือเก็บรวบรวมนำมาทิ้งกับ โครงการรีไซเคิลแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟังใช้แล้ว ณ ศูนย์บริการของเรา