Posts

หูสองข้างได้ยินเท่ากันหรือไม่

 

หลายคนอาจมีข้อสงสัย….

      หูทั้งสองข้าง ได้ยินเท่ากันหรือไม่? เท้าข้างหนึ่งของคุณมักจะใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่งเล็กน้อย เช่นเดียวกับสายตาที่สั้นหรือยาวกว่ากันเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หูข้างหนึ่งอาจได้ยินดีกว่าอีกข้างหนึ่ง แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย

 

¹งานวิจัยค้นพบว่า เด็กที่มีความบกพร่องทางหูขวา มีปัญหาในการเรียนในโรงเรียนมากกว่าเด็กที่สูญเสียการได้ยินในหูซ้าย

 

 

หูซ้าย และหูขวา

หูทั้งสองข้าง รับรู้เสียงแตกต่างกัน


      ¹Yvonne Sininger, Ph.D. ศาสตราจารย์ด้านศัลยศาสตร์ศีรษะและคอ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส ร่วมกับทีมงาน ได้ทำการศึกษาการได้ยินของทารกแรกเกิดมากกว่า 3,000 ราย ก่อนออกจากโรงพยาบาล พวกเขาพบว่า หูข้างซ้ายปรับเข้ากับเสียงดนตรีได้ดีกว่า และหูข้างขวารับเสียงคล้ายเสียงพูดได้ดีกว่า

      การวิจัยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่เริ่มต้นที่หู “เราคิดเสมอว่าหูซ้ายและขวาของเราทำงานในลักษณะเดียวกัน” Sininger กล่าว ด้วยเหตุนี้ เรามักจะคิดว่ามันไม่สำคัญว่าหูข้างไหนที่มีความบกพร่องในตัวบุคคล ตอนนี้เราเห็นว่ามันอาจมีความหมายอย่างลึกซึ้งต่อพัฒนาการทางการพูดและภาษาของแต่ละคน

      การค้นพบนี้จะช่วยให้แพทย์ พัฒนาการพูดและภาษาในทารกแรกเกิดที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและฟื้นฟูผู้ที่สูญเสียการได้ยิน

 

hearing-loss-in-child

หูซ้ายจะรับข้อมูลโทนเสียงต่างๆ เสียงดนตรี อารมณ์ และสัญชาตญาณได้ดีกว่า ในขณะที่หูขวาจะรับเสียงคำพูดและตรรกะได้ดีกว่า

 

นั่นอาจอธิบายได้ว่า…

 

     ³ผู้ที่สูญเสียการได้ยินในหูข้างซ้ายมาก อาจพบว่าตัวเองไม่สามารถเข้าใจอารมณ์หรือการโต้เถียงของสมาชิกในครอบครัวได้น้อยลง ในขณะที่ผู้ที่สูญเสียการได้ยินในหูข้างขวามาก อาจสูญเสียความสามารถในการให้เหตุผลเชิงตรรกะบางส่วน หรือการแยกแยะสิ่งต่างๆ ลดลง

 

 ซึ่งตรงข้ามกับสมองของมนุษย์เรา กล่าวคือ…

 

      ²สมองซีกซ้าย (Left Hemisphere) จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการคิดเชิงตรรกะเหตุผล การมีวิจารณญาณ ตัวเลข ภาษา และสมองซีกขวา (Right Hemisphere) จะทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ การจินตนาการ ดนตรี ศิลปะ อารมณ์

      สอดคล้องกับงานวิจัย ในปี ค.ศ. 1960 ของ Roger W. Sperry ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษาสมองสองซีกของมนุษย์ และค้นพบว่า สมองทั้งสองซีกจะทำงานกลับข้างกัน สมองซีกซ้ายจะควบคุมการทำงานของร่างกายทางด้านขวา และสมองซีกขวาจะควบคุมการทำงานของร่างกายทางด้านซ้าย

 

Brain-and-hearing

การทำงานของสมอง และการรับเสียงของหู

 

      ¹นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ Cone-Wesson แห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนา ผู้วิจัยร่วมกับ Sininger ยังอธิบายว่า “หากบุคคลใดหูหนวกอย่างสมบูรณ์ การค้นพบของเราอาจเสนอแนวทางแก่ศัลยแพทย์ในการใส่ประสาทหูเทียมในหูข้างซ้ายหรือข้างขวาของแต่ละคน และมีอิทธิพลต่อวิธีตั้งโปรแกรมประสาทหูเทียมหรือเครื่องช่วยฟังเพื่อประมวลผลเสียง” Cone-Wesson อธิบาย “โปรแกรมประมวลผลเสียงสำหรับอุปกรณ์ช่วยฟังสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับหูแต่ละข้างได้ เพื่อให้ได้สภาวะที่ดีที่สุดสำหรับการได้ยินเสียงคำพูดหรือเสียงดนตรี”

  

 

การให้ข้อมูลของคุณกับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินและเครื่องช่วยฟัง จะเป็นประโยชน์สำหรับการเลือกอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสม รวมถึงการปรับแต่งเสียงเพื่อการใช้งานเครื่องช่วยฟังของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

 

ทดสอบการได้ยิน ปรึกษาการเลือกเครื่องช่วยฟัง

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
Facebook : hearingchiangmai
Line : @hearingchiangmai

 


ขอขอบคุณข้อมูล :    ¹University Of California – Los Angeles, Left And Right Ears Not Created Equal As Newborns Process Sound. ScienceDaily. [2004, Sep10]., ²กลไกสมองสองซีกกับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์. ปัญจนาฏ วรวัฒนชัย, 2559, healthyhearing.com
ช็อกโกแลตกับการได้ยิน

 

      อาหารแทบทุกชนิดล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรา ทุกคนรู้ว่านมดีต่อกระดูก และแครอทดีต่อสายตา แต่ใครจะรู้ว่าช็อกโกแลตดีสำหรับการได้ยิน

 

ช็อกโกแลต อาหารทรงคุณค่าแก่การได้ยิน


      ช็อกโกแลต (Chocolate) หนึ่งในผลิตผลที่มาจากเมล็ดโกโก้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลอย่างฟลาโวนอยด์ที่ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

       นอกจากนี้ในช็อกโกแลตยังมีสารเคมีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง อย่างสารเซโรโทนิน โดพามีน ในการปรับสภาพอารมณ์และส่งผลต่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยลดภาวะอาการซึมเศร้าและความเครียดลงได้

 


ทีมนักวิจัย นำโดย Dr.Sang-Yeow Lee แพทย์หู คอ จมูก The Seoul National University Hospital ได้เผยแพร่งานวิจัยล่าสุด* ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients Journal เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 โดยเป็นการสำรวจของ Korean National Health and Nutrition Examination Survey กับประชากร 3,575 คน ที่มีอายุระหว่าง 40 – 64 ปี ในปี พ.ศ. 2555 – 2556 พบว่า…“อัตราการเกิดความบกพร่องทางการได้ยิน ทั้งเกิดในหูข้างเดียวหรือเกิดในหูทั้งสองข้าง ของผู้ที่รับประทานช็อกโกแลตต่ำกว่า ผู้ที่ไม่ได้รับประทานช็อกโกแลตอย่างมีนัยสำคัญ”

 

งานวิจัยยังพบว่า การรับประทานช็อกโกแลตเป็นประจำ อาจช่วยป้องกันผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนจากการเกิดความบกพร่องทางการได้ยินได้

 

       อย่างไรก็ตาม การบริโภคช็อกโกแลตควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน เป็นต้น

 

 

ด้วยความห่วงใย

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6520725/
https://www.pobpad.com/
ผู้บกพร่องทางการได้ยินมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัส COVID-19

 

ด้วยเหตุที่ว่า ทำไมผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน

ถึงมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัส COVID-19

 

จากข้อมูลหลายแหล่งได้ให้รายละเอียด ดังนี้;


ประการแรก ปัญหาการสื่อสารด้านการดูแลสุขภาพ ที่ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดของข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่ถูกต้อง และบ่อยครั้งที่ระดับความรู้ด้านสุขภาพลดลง หรือ ความฉลาดทางสุขภาพ (Health Literacy) อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดพลาดในการใช้ยาและการรักษา


ความฉลาดทางสุขภาพ (Health Literacy) หมายถึง ความสามารถและทักษะในการเข้าถึงข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจ เพื่อวิเคราะห์ ประเมินการปฏิบัติและจัดการตนเอง รวมทั้งสามารถชี้แนะเรื่องสุขภาพส่วนบุคคล ครอบครัว และชุมชน เพื่อสุขภาพที่ดี

 


ประการที่สอง ความรู้สึกโดดเดี่ยว ความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าจากการแยกตัวออกจากสังคมของผู้บกพร่องทางการได้ยิน อาการเหล่านี้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 และเสี่ยงมากยิ่งขึ้นสำหรับ…ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน เป็นต้น โรคเหล่านี้พบได้บ่อยในผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน


 

 

หากท่านมีความจำเป็นต้องพบแพทย์

ในช่วงของการระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 ควรเตรียมความพร้อม ดังนี้

 

1. สวมอุปกรณ์ป้องกันหน้ากากอนามัยอย่างมิดชิด

2. เดินไปกับญาติ หรือบุคคลในครอบครัว เพื่อช่วยฟังคำอธิบายจากแพทย์

3. ใส่เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมกับระดับการได้ยินตลอดเวลา

4. นำยาที่รับประทานอยู่ติดตัวไปด้วย

5. ระหว่างที่มีโรคระบาด ทางโรงพยาบาลจะมีผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จะยุ่งกับการดูแลผู้ป่วย และมีเวลาให้ท่านน้อย ขอให้ญาติหรือบุคคลในครอบครัวจดจำสิ่งที่แพทย์บอก การรับประทานยาตามแพทย์สั่ง และการวางแผนการรักษา

6. ถ้าท่านพักอยู่โรงพยาบาลในช่วงเวลาที่มีโรคระบาด ควรพยายามออกจากโรงพยาบาลและกลับมาบ้านให้ได้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อในโรงพยาบาล

 


ขอให้ท่านศึกษาคำแนะนำในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) และติดตามข่าวสารการแพร่ระบาดอย่างสม่ำเสมอ

 

 

อย่าลืมสังเกตตัวเอง หากมีอาการไข้สูงมากกว่า 37.5 องศา  ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก คุณอาจเสี่ยงติดเชื้อ Covid-19 ควรรีบมาพบแพทย์ด่วน!

 

 

ด้วยความห่วงใย,

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.chadruffinmd.com/blog/2020/3/15/covid-19-and-hearing-loss
กรมอนามัย