Tag Archive for: หูหนวก
จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทย
ฉบับที่ 21/2564 ประจำสัปดาห์ที่ 22 (วันที่ 30 พ.ค. – 5 มิ.ย. 64)
รายงานพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 171 ราย
เสียชีวิต 11 ราย
กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน ได้แก่ อายุมากกว่า 65 ปี รองลงมาคือ อายุ 55 – 64 ปี และอายุ 45 – 54 ปี ตามลำดับ อาชีพที่พบผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ รับจ้าง รองลงมาคือ เกษตรกร ภาคที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ ภาคเหนือ รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ นครราชสีมา และสุโขทัย ตามลำดับ
พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมและวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการป่วยด้วยโรคไข้หูดับ โรคไข้หูดับเกิดจาก เชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis)
โรคไข้หูดับ สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ
1. การบริโภคเนื้อหมู และเลือดหมูที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
2. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ ทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค ติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา
อาการหลังได้รับเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส หรือไข้หูดับ ในไม่กี่ชั่วโมง จนถึง 5 วัน
- มีไข้สูง
- ปวดศีรษะรุนแรง
- เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้
- อาเจียน
- ถ่ายเหลว
- คอแข็ง
- สูญเสียการได้ยินถึงขั้นหูหนวกถาวร
- ข้ออักเสบ
- เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังติดเชื้อรุนแรง
- ติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้
กลุ่มเสี่ยงที่เมื่อได้รับเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ
กรมควบคุมโรค แนะนำวิธีป้องกันโรคไข้หูดับ ดังนี้
- ควรรับประทานหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น และเลือกซื้อเนื้อหมูที่ไม่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำ ล้างมือด้วยน้ำสบู่ทุกครั้งหลังสัมผัส หากรับประทานอาหารปิ้งย่าง ขอให้ทำให้สุกก่อนเสมอ และแยกอุปกรณ์ที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและดิบ
- ผู้ที่สัมผัสกับหมู โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมใส่เสื้อและกางเกงที่ปกปิดมิดชิด ใส่รองเท้าและ ถุงมือทุกครั้งเมื่อเข้าไปทำงานในคอกสุกร หลีกเลี่ยงการจับซากสุกรที่ตายด้วยมือเปล่า ล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และผู้จำหน่าย ควรจำหน่ายเนื้อหมูที่มาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ทำความสะอาดแผงด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อทุกวันหลังเลิกขาย และเก็บเนื้อหมูที่จะขายในอุณหภูมิที่ตํ่ากว่า 10°C
ทั้งนี้ หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังสัมผัสหมูที่ป่วยหรือรับประทานอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูไม่สุก ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการรับประทานหมูดิบให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดอัตราการหูหนวกและการเสียชีวิตได้
ข้อมูล : สายด่วนกรมควบคุมโรค สอบถามเพิ่มเติมได้ โทร. 1422
เราพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาการได้ยิน หูหนวก หูดับ
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม
กรณีเด็ก มีหลักเกณฑ์เบื้องต้น ดังนี้
- หูหนวก ทั้ง 2 ข้าง (สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับ 80 เดซิเบลขึ้นไป – ABR, ASSR ระดับ 90 เดซิเบลขึ้นไป)
- อายุแรกเกิด ถึง 4 ปี ที่ไม่รับรู้เสียงพูด และไม่มีพัฒนาการด้านทักษะการฟัง การพูด และภาษา (สำหรับมูลนิธิ เด็กต้องอายุไม่เกิน 3 ขวบ)
- อายุมากกว่า 5 ปี แต่ยังจำแนกคำพูดได้น้อยกว่า 50% ไม่ได้ประโยชน์จากการใส่เครื่องช่วยฟัง
- ผู้ปกครองต้องทุ่มเท เอาใจใส่ และส่งเสริมการมีพัฒนาการทางด้านทักษะการฟัง และการพูดของเด็กเป็นอย่างดี
หมายเหตุ : อายุ ไม่ได้ระบุแน่ชัด ขึ้นอยู่กับการประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัดของทีมแพทย์ และการประเมินความพร้อมของครอบครัวในการฟื้นฟูภายหลังการผ่าตัด
สำหรับความคาดหวังของการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กนั้น ผู้ปกครองจะเป็นผู้คาดหวังในการผ่าตัดเสียส่วนใหญ่ว่า หลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วเด็กจะต้องได้ยินและมีพัฒนาการตามช่วงวัยเหมือนเด็กปกติทั่วไป ซึ่งความเป็นจริงแล้ว สำหรับเด็กที่มีการสูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด การรับรู้และพัฒนาการของเด็กจะช้ากว่าเด็กปกติ
และเมื่อเข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม พัฒนาการของเด็กจะพัฒนาได้ช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของผู้ปกครองและความพร้อมของตัวเด็กเอง
ดังนั้นหลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม ผู้ปกครองจำเป็นต้องให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ให้ความสำคัญกับการฝึกฟัง ฝึกพูด เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กเติบโตอย่างสมวัย (กรณีเด็กที่ทำการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วไม่ได้รับการฝึกฟัง ฝึกพูด อาจทำให้เด็กเลือกใช้ภาษามือ และท่าทางแทนการสื่อสารด้วยภาษาพูด)
การสูญเสียการได้ยินเป็นเวลานาน ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กได้ และควรได้รับการฟื้นฟู ไม่เกิน 6 เดือน
สอบถามข้อมูลเทคโนโลยีประสาทหูเทียมเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
การผ่าตัดประสาทหูเทียม เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินในระดับรุนแรงถึงหูหนวก และไม่ได้รับประโยชน์จากเครื่องช่วยฟัง
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์จะพิจารณาให้ประสาทหูเทียมเป็นวิธีแก้ปัญหาการได้ยินในระยะยาว มีขั้นตอนและกระบวนการ 3 ขั้นตอน ดังนี้ คือ ขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด การเตรียมตัวผ่าตัด และการดูแลและฟื้นฟูหลังผ่าตัด
3 ขั้นตอน การผ่าตัดประสาทหูเทียม
1. ขั้นตอนการเตรียมการก่อนผ่าตัด
ผู้ป่วยที่ผ่าตัดประสาทหูเทียมต้องได้รับการประเมินก่อนผ่าตัด โดยกระบวนการประเมินความเหมาะสม และความพร้อมของร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าประสาทหูเทียมคือคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวผู้ป่วยเอง
- การทดสอบการได้ยิน เช่น ระดับการได้ยิน ความเข้าใจภาษา การทำงานของระบบประสาทการได้ยิน
- การทดสอบด้านการแพทย์ การตรวจร่างกายและทำ MRI เพื่อตรวจสุขภาพโดยทั่วไป ได้แก่ การซักประวัติผู้ป่วย สาเหตุของการสูญเสียการได้ยิน การตรวจความผิดปกติของชั้นหู การประเมินโครงสร้างภายในของหู รวมถึงการตรวจเลือด ปัสสาวะ ปอด หัวใจ เพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของร่างกายก่อนผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมด้วยการดมยาสลบ
- การทดสอบด้านจิตวิทยา เพื่อรับรองความสามารถในการรับมือกับการผ่าตัด และมีส่วนร่วมในการติดตามผล ดูแลและรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพภายหลังการผ่าตัด
2. ขั้นตอนการเตรียมตัวผ่าตัด
กระบวนการผ่าตัดประสาทหูเทียม ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง สำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้นพบน้อยมาก ศัลยแพทย์จะเป็นคนปรึกษาเรื่องความเสี่ยงกับตัวผู้ป่วยเอง
- ผู้ป่วยควรงดน้ำ อาหารทุกชนิด ก่อนเวลาผ่าตัดประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยที่ดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ควรงดเว้นก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หรือตามคำสั่งของแพทย์ (เพื่อป้องกันผู้ป่วยที่ต้องใช้วิธีดมยาสลบ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากปอดทำงานหนัก ส่งผลให้ปอดอักเสบจากการสูดสำลัก หรือไอมากหลังผ่าตัดได้)
- ผู้ป่วยควรงดใช้ยา 1 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด (แอสไพริน หรือยาต้านการอักเสบอื่น ๆ) หากเป็นยารักษาโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์
- การผ่าตัดใช้วิธีการดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การดำเนินการ ประกอบด้วยสองส่วน :
การฝังของตัวรับสัญญาณ– ตัวรับสัญญาณที่ติดตั้งอยู่บนกระดูกหลังใบหูภายใต้ผิวหนัง อิเล็กโทรดมีการเชื่อมต่อไปยังตัวรับส่งเสียงโดยตรงกับประสาทหู
การเชื่อมต่อภายนอกของตัวแปลงสัญญาณ– ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ สำหรับการเปิดเครื่องประสาทหูเทียม (ตัวแปลงสัญญาณเสียง) หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น
3. ขั้นตอนการดูแลและฟื้นฟูหลังผ่าตัด
- เมื่อผ่าตัดเสร็จ แพทย์จะให้ผู้ป่วยอยู่พักฟื้นเพื่อสังเกตอาการประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จากนั้นจะย้ายผู้ป่วยไปพักฟื้นต่อที่หอผู้ป่วย
- ผู้ป่วยใช้เวลาในการพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 3 – 4 วัน
- แพทย์จะให้ยาแก้ปวด เมื่อผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยจะถูกสั่งงดน้ำ และอาหารทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการผ่าตัด
เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นประมาณ 4 สัปดาห์ นักแก้ไขการได้ยินจะทำการเปิดเครื่องประสาทหูเทียม และติดตั้งโปรแกรมในอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับระดับการได้ยิน และปรับการตั้งค่าการติดตามผลในครั้งต่อๆ ไป นักแก้ไขการได้ยินจะทำการติดตามผลเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 หรือ 2 ครั้ง
ผลสําเร็จและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัด การได้ยินในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม จะไม่เหมือนการได้ยินปกติ ผู้ป่วยต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนจึงจะสามารถฟัง แปลผล และสื่อสารได้ จึงมีความจําเป็นที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากครอบครัว และบุคลากรหลายด้าน ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ นักแก้ไขการพูด ครูการศึกษาพิเศษ หรือ ครูที่โรงเรียน เพื่อน ที่ต้องเอาใจใส่ พูดคุยกระตุ้นเพื่อให้ได้ฝึกฟังและพูดตลอดเวลา
สามารถอ่านข้อมูลคุณสมบัติผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียมได้ที่ คุณสมบัติผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียม
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัดประสาทหูเทียม เราพร้อมให้คำปรึกษา
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
Facebook: m.me/hearingchiangmai
Line Official: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
ถ้าให้เลือกได้ คุณก็คงอยากมีสุขภาพการได้ยินที่ดี ไม่อยากสูญเสียการได้ยินหรือมีปัญหาหูตึงใช่ไหมครับ? การรู้วิธีดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในยุคนี้เราก็มีข้อมูลมากมายให้เรียนรู้ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลไหนถูกหรือผิด งั้นมาเช็คดูกันว่า ความเชื่อที่คุณมีเกี่ยวกับ “หูตึง” มีอันไหนถูก อันไหนผิดบ้าง
5 ความเชื่อถูกผิด เกี่ยวกับ “หูตึง”
1. สูงวัย สาเหตุหลักของหูตึง : ผิด
คนส่วนมากมักจะคิดว่าสาเหตุหลักของการสูญเสียการได้ยินมาจากความแก่ชรา ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด แท้จริงแล้วสาเหตุหลักของการสูญเสียการได้ยินคือ “เสียงดัง” ที่เราเจอในชีวิตประจำวันต่างหาก
- เด็กอเมริกันในวัยเรียนจำนวน 15% สูญเสียการได้ยิน เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันที่อยู่กับเสียงดังบ่อยๆ
- โรงงานส่วนมากยังไม่ใส่ใจในการให้พนักงานใส่อุปกรณ์ป้องกันหู เช่น Earplug ก่อนไปทำงานที่ต้องเจอะเจอกับเสียงดัง เช่น เสียงเครื่องจักรต่างๆ
เสียงดังหลายชนิด เราอาจคาดไม่ถึงว่าหากเราต้องได้ยินทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ก็ส่งผลให้เราหูตึงได้ เช่น เสียงเพลงที่ฟังจากหูฟัง เสียงดนตรีในสถานที่เที่ยวกลางคืน เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงไดร์เป่าผม และอื่นๆ ที่ไม่ควรได้ยินต่อเนื่องกันนานเกินไป
2. หูตึง สามารถรักษาให้หายขาดได้ : ผิด
ที่จริงแล้ว อวัยวะต่างๆ ภายในหูนั้น เป็นสิ่งที่บอบบางมาก ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า เราได้ยินเสียงได้อย่างไร?
2.1 คลื่นเสียงถูกนำเข้าสู่รูหูของคุณโดยผ่านใบหู
2.2 คลื่นเสียงจะไปกระทบกับเยื่อแก้วหูก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน
2.3 กระดูหูเล็กๆ สามชิ้นจะสั่นสะเทือนไปพร้อมกับแก้วหู ส่งสัญญาณเสียงจากหูชั้นกลางไปสู่หูชั้นในรูปหอยโข่ง
2.4 ของเหลวในหูชั้นในสั่น ทำให้เซลล์ขนสั่นตามไปด้วย และเกิดการเปลี่ยนแปลงจากพลังงานการสั่นสะเทือนเป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งจะถูกส่งไปที่เส้นประสาทการได้ยินที่สมอง ศูนย์กลางการได้ยินของสมองจะทำหน้าที่แปลความหมายของกระแสไฟฟ้านั้นให้กลายเป็นเสียงต่อไป
จากขั้นตอนสุดท้าย จะเห็นว่า เซลล์ขน มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เราทุกคนได้ยินเสียง แต่เซลล์ขนก็สามารถถูกทำลายได้จากการที่เราฟังเสียงดังนานๆ และบ่อยเกินไป และที่น่าตกใจก็คือ
เมื่อเซลล์ขนภายในหูของเรา ถูกทำลายไปแล้ว จะไม่สามารถสร้างใหม่ขึ้นมาได้ จึงทำให้เกิดปัญหาการได้ยิน หูตึงหรือหูหนวก
ดังนั้น หูตึงหรือหูหนวก จึงไม่สามารถรักษาให้กลับมาได้ยินสมบูรณ์แบบ 100% ได้ ทางที่ดีจึงควรรู้ป้องกันให้เรามีสุขภาพการได้ยินที่ดีกันดีกว่า
3. หูตึง จะซื้อเครื่องช่วยฟังที่ไหนก็ได้ : ผิด
หลายท่านอาจเข้าใจว่า เครื่องช่วยฟังเป็นเพียงแค่เครื่องขยายเสียงเพียงเท่านั้น จึงไปหาซื้อจากอินเตอร์เน็ต ร้านขายยา หรือร้านทั่วไป โดยไม่ได้รับการตรวจการได้ยินก่อน แต่ที่จริงแล้วเครื่องช่วยฟังจัดว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ใช่แค่ช่วยขยายเสียงให้เราได้ยินชัดขึ้น แต่ยังสามารถช่วยเติมการได้ยินในคลื่นความถี่ที่เราสูญเสียไป โดยไม่กระทบกับคลื่นความถี่ที่เราได้ยินดีอยู่ ลองอ่านบทความเพิ่มเติมได้ โดยการคลิกที่นี่ ครับ
4. หูตึง เป็นเวรกรรม ป้องกันไม่ได้ : ผิด
อย่างที่ผมเขียนไปในข้อที่ 1 ว่าเราทุกคนสามารถป้องกันไม่ให้อยู่ในสถานที่เสียงดัง หรือใช้อุปกรณ์ที่เสียงดัง บ่อยจนเกินไป เพราะใช่ว่าทุกคนจะแก่ชราแล้วมีปัญหาการได้ยินนะครับ คุณเองก็สามารถเลือกได้ ให้ตนเองเป็นคนที่เติบโตขึ้นพร้อมสุขภาพที่ดี
5. การตรวจการได้ยินทุกปี ป้องกันหูตึงได้ : ถูก
การใส่ใจในการตรวจสุขภาพประจำปี เป็นเรื่องที่ดีมากครับ แต่หลายคนมักไม่ค่อยใส่ใจการตรวจการได้ยิน เพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่แท้ที่จริงแล้ว หากคุณมาตรวจการได้ยินและรู้วิธีการป้องกันการสูญเสียการได้ยินตั้งแต่เนิ่นๆ คุณก็จะมีสุขภาพการได้ยินที่ดีไปได้ยาวนานยิ่งขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างครับ มีความเชื่อไหนที่คุณเข้าใจผิดมาตลอดบ้าง? เราอยากให้ทุกคนมีข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อจะได้มีการได้ยินที่ดีนะครับ แต่หากมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินตรงไหนเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ตลอดเวลาครับ
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
.
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก The New York Times
การมีสุขภาพในช่องปากที่ดี ไม่ใช่แค่จะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพคุณให้ดูดี แต่ยังช่วยให้คุณมีการได้ยินที่ดีด้วย
อาจดูไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันใช่ไหม? แต่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า ปัญหาในช่องปากจะก่อให้เกิดแบคทีเรียร้ายที่สามารถไหลไปตามกระแสเลือด และก่อให้เกิดการอักเสบที่หลอดเลือด หรือมีส่วนทำให้หลอดเลือดตีบได้ ทั้งหมดนี้จึงส่งผลต่ออวัยวะหูและสมองของคุณ!
ความเกี่ยวข้องกันระหว่าง
สุขภาพในช่องปาก และสุขภาพการได้ยิน
ภายในช่องหูจะมีเซลล์ขน (Hair Cell) ที่ทำหน้าสำคัญในการเชื่อมต่อกับเส้นประสาทการได้ยิน จึงถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราทุกคนได้ยินชัดเจน แต่เซลล์ขนก็สามารถถูกทำลายได้จากหลายสาเหตุ
- อยู่ในพื้นที่ที่เสียงดังเกินไป
- รับประทานยาที่ส่งผลต่อปัญหาการได้ยิน
- เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหูชั้นในได้ไม่เพียงพอ
ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร เมื่อเซลล์ขนถูกทำลายไปแล้ว ก็ไม่สามารถสร้างใหม่ขึ้นมาได้ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาการได้ยิน หูตึงหรือหูหนวก ซึ่งโดยปกติเซลล์ขนก็จะเสื่อมลงตามอายุของเราที่มากขึ้น แต่การมีปัญหาในช่องปาก ฟันผุ ก็ส่งผลให้มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหูชั้นในได้ไม่เพียงพอ จึงมีส่วนในการทำลายเซลล์ขนได้
แบคทีเรียร้ายจากการไม่ดูแลสุขภาพในช่องปาก มีส่วนทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดหรือหลอดเลือดตีบ จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และเสี่ยงต่อการมีปัญหาการได้ยิน
เราจึงควรดูแลสุขภาพในช่องปาก ดังนี้
- ไปพบกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพในช่องปาก
- แปรงฟันทั้งก่อนนอนและหลังตื่นนอน โดยใช้เวลาแปรงฟันแต่ละครั้งไม่ต่ำว่า 2 นาที
- เลือกแปรงสีฟันที่มีขนาดพอเหมาะ ที่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง
- ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี เพื่อทำความสะอาดระหว่างซอกฟันได้สะอาดขึ้น
- อย่าใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น แม้กับคนในครอบครัว
- ล้างแปรงสีฟันหลังใช้ทุกครั้ง และวางไว้ในที่แห้ง
- เปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก 3 เดือน
การที่สุขภาพในช่องปากมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพการได้ยินของหู ไม่ใช่เรื่องที่แปลก เพราะที่จริงแล้วอวัยวะหลายอย่างในร่างกายก็ทำงานเชื่อมโยงกันทั้งหมด การดูแลสุขภาพองค์รวมจึงเป็นสิ่งสำคัญถ้าคุณอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี
และหากคุณมีปัญหาการได้ยิน หูตึง หูหนวก หูดับ เราพร้อมให้คำปรึกษาโดยนักแก้ไขการได้ยินมืออาชีพ
(ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก Healthy Hearing)
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
หลายคนสงสัยว่าประสาทหูเทียมดีกว่าเครื่องช่วยฟังอย่างไร ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนเข้าใจหลักการทำงานของประสาทหูเทียมในลิงก์นี้ รู้จักกับประสาทหูเทียม คลิกที่นี่
และสำหรับผู้ใช้งานเครื่องช่วยฟังอยู่แล้ว อยากให้ลอง…
สำรวจตัวเอง ดังนี้
- คุณมักจะขอให้คนอื่นพูดซ้ำแม้ว่าจะอยู่ในห้องเงียบๆ ก็ตาม หรือไม่?
- คุณต้องพึ่งการอ่านปาก หรือไม่?
- คุณต้องเลี่ยงกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เพราะคุณอาจตามไม่ทัน ในสิ่งที่คนกำลังพูด หรือไม่?
- คุณรู้สึกเหนื่อยเมื่อหมดวัน เนื่องจากการใช้สมาธิหมดไปอย่างมากกับการฟัง หรือไม่?
- คุณมีความยากลำบากในการตามงานให้ทัน หรือไม่?
- การพูดคุยทางโทรศัพท์เป็นเรื่องยาก คุณจึงเลี่ยงที่จะใช้มัน หรือไม่?
- การฟังเพลงไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว หรือไม่?
หากคุณตอบว่าใช่ในคำถามข้อใดก็ตาม คุณอาจเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่พร้อมต่อการผ่าตัดประสาทหูเทียม
ยิ่งคุณได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียมเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะเริ่มได้ยินและสนุกสนานไปกับชีวิตของคุณได้เร็วขึ้นเท่านั้น
ข้อดีของ ประสาทหูเทียม
ประสาทหูเทียมนั้นก่อให้เกิดความก้าวหน้าที่รวดเร็วกว่าเครื่องช่วยฟัง โดยเฉพาะในส่วนของการเข้าใจคำพูด พึงระลึกไว้ว่าการสูญเสียการได้ยินของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน และผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันออกไป แต่ละคนอาจได้รับประสบการณ์การได้ยินที่ต่างกันจากประสาทหูเทียมของพวกเขา คุณจึงควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณเป็นรายบุคคล
รู้หรือไม่ว่า…
หากคุณมีการสูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง หรือหูหนวกทั้งสองข้าง การผ่าตัดประสาทหูเทียมทั้งสองข้าง (Bilateral) จะช่วยมอบประสบการณ์การได้ยินที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นี่เป็นตัวเลือกที่คุณสามารถปรึกษากับนักแก้ไขการได้ยินหรือศัลยแพทย์ของคุณได้
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
การสูญเสียการได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นระดับเล็กน้อยถึงปานกลางที่เรียกว่า “หูตึง” หรือระดับรุนแรงที่เรียกว่า “หูหนวก” ก็ส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง เพราะไม่สามารถได้ยินและสื่อสารกับคนรอบข้างได้
ปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง ที่อาจส่งผลต่อการสูญเสียการได้ยิน?
- อายุที่มากขึ้น โครงสร้างของหูชั้นในเสื่อมลง จึงส่งผลต่อการได้ยิน
- การได้ยินเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นการได้ยินเสียงดังสะสมจากการทำงานในที่ที่มีเสียงดัง การได้ยินเสียงดังมากในระยะสั้นเช่นเสียงปืนหรือเสียงระเบิด ก็ล้วนเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยิน
- พันธุกรรม ปัญหาการได้ยินสามารถถูกถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้
- ยาบางชนิด เช่นยาลดไข้แอสไพริน ยาขับปัสสาวะ หากรับประทานต่อเนื่องนานเกินไป หรือปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ก็อาจทำให้เกิดอาการเสียงดังในหู (Tinnitus) หรือสูญเสียการได้ยิน
- การเจ็บป่วย โรคบางชนิดเช่นไข้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทำให้หูดับหรือหูหนวกได้
- ความเครียดหรือพักผ่อนน้อย เมื่อสะสมนานๆ เข้าก็มีผลต่อประสาทหูเสื่อมได้
เลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงควรตรวจการได้ยินเป็นประจำทุกปี ควรป้องกันไว้ก่อนสายเกินแก้
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว Holly McDonell อายุเพียง 4 ขวบเมื่อเป็นไข้เยื่อหุ้มสมองอักเสบจนหูหนวกขั้นรุนแรง เธอเป็นคนไข้เด็กคนแรกของโลกที่ได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียมในปีพ.ศ. 2530
จากหูหนวก ก็กลับมาได้ยินอย่างมีความสุข ประสาทหูเทียมช่วยเปลี่ยนชีวิตของฉัน
หลังจากนั้น Holly จึงกลับมาได้ยิน และเข้าโรงเรียนปกติเหมือนเด็กทั่วไป เธอเติบโตและทำงานอย่างมีความสุข
ฉันได้ทำงานเกี่ยวกับกฏหมาย และนั่นก็ทำให้ฉันได้พบกับ Jamie สามีของฉัน
ภายหลังการแต่งงาน Holly จึงได้มีลูกที่น่ารัก Madeleine และนั่นทำให้เธอได้รับรู้ถึงความสุขของเสียงที่แท้จริง
การได้ยินเสียงของลูก ทำให้ฉันชีวิตของฉันเติมเต็มไปด้วยความสุข ฉันรู้สึกตื้นตันจากใจที่ได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียม มันคือความมหัศจรรย์จริงๆ
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2530 มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 30 ปี Holly ไม่เคยต้องผ่าตัดซ้ำ ประสาทหูเทียมที่เธอใช้ก็ยังเป็นรุ่นเดิม เธอเพียงแค่เปลี่ยนเครื่องแปลงสัญญาณเสียงภายนอก ให้อัพเดทและใช้งานได้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันเท่านั้น
สำหรับผู้ที่มีปัญหาการได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นระดับเริ่มต้น ปานกลาง รุนแรงจนกระทั่งดับหรือหูหนวก ก็สามารถกลับมาได้ยินอีกครั้งได้เหมือน Holly เพียงแค่คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมจากแพทย์หรือนักแก้ไขการได้ยิน
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
ถ้าเช้าวันหนึ่ง คุณตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองไม่ได้ยินเสียงรอบข้างอีกต่อไป เสียงคู่รัก เสียงคนในครอบครัว เสียงนกร้อง ทุกอย่างล้วนเงียบสงัด คุณจะรู้สึกอย่างไร?
อยากให้คุณได้อ่านเรื่องราวของแพท ที่เกิดและเติบโตแบบคนปกติทั่วไป เธอได้ยินเสียงและมีความสุขจนกระทั่งตอนอายุ 34 ปีในปี 2524 เธอก็มีอาการหูดับ และสูญเสียการได้ยินถึงขั้นหูหนวกสนิทภายใน 3 วันหลังจากเริ่มเกิดอาการ แพทย์ได้แจ้งว่าสาเหตุมาจากเธอติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง
หลังจากนั้นแพทก็ใช้ชีวิตในโลกอันเงียบสงัดเป็นเวลา 3 ปี จนกระทั่งสามีของเธอได้ดูรายการโทรทัศน์ที่พูดเกี่ยวกับประสาทหูเทียม จึงแนะนำให้แพทเข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม
“ฉันรู้สึกว่าส่วนหนึ่งของชีวิตได้สูญหายไป ฉันต้องคอยถามให้คนอื่นพูดหลายรอบเพื่อที่จะอ่านปาก มันคงจะดีถ้าฉันจะมีโอกาสได้ยินอีกครั้ง” แพทได้กล่าวไว้
หลังจากได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ และผ่านขั้นตอนต่างๆ แพทจึงได้รับการผ่าตัดในเดือนเมษายน 2530 ซึ่งเธอเป็นคนไข้คนแรกใน South Dakota ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียม
ปัจจุบันเธอใช้เครื่องแปลงสัญญาณเสียงของ Cochlear รุ่น Nucleus 6 แพทได้เล่าให้ฟังว่า
“เสียงที่ฉันชอบฟังมากที่สุดคือเสียงคนในครอบครัว เสียงนกร้อง เสียงดนตรี จะว่าไปก็ชอบทุกเสียงนั่นแล่ะ”
เธอยอมรับว่าประสาทหูเทียมทำให้เธอเหมือนกับเกิดใหม่ เธอไม่ต้องพลาดกับเสียงทุกเสียงในชีวิตประจำวันอีกต่อไป
“สำหรับคนที่มีปัญหาหูดับ หูหนวก หรือสูญเสียการได้ยินขั้นรุนแรง ควรรีบได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และประสาทหูเทียมจะเป็นคำตอบ ที่จะทำให้เขาเหล่านั้นได้รับความสุขในชีวิตกลับมาอีกครั้ง”
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องประสาทหูเทียม สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเรา โดยกรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับได้ที่ การขอข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ
หรือติดต่อเราได้ที่
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai