ออดิโอแกรม เดียวกัน เครื่องช่วยฟังรุ่นเดียวกัน ประเภทเดียวกัน แต่ผลลัพธ์การได้ยินแตกต่างกัน เนื่องด้วยปัจจัย 5 ปัจจัยนี้ และนอกจากนี้นักโสตสัมผัสวิทยายังอธิบายว่า
Posts
ส่งเสริมคุณภาพชีวิตดี การได้ยินดีด้วย เครื่องช่วยฟังอย่างดี สูญเสียการได้ยินเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย สร้างความลำบากในการสื่อสาร สูญเสียความมั่นใจ ลดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
เลือก ลงทุนเครื่องช่วยฟัง อย่างไรให้คุ้มค่า ตามไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ของคุณ และในงบประมาณที่คุณมีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการใช้งาน รองรับทุกสถานการณ์การฟังของคุณ
เตรียมความพร้อม เครื่องช่วยฟัง ต้อนรับช่วงเทศกาลวันหยุดยาว วันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 กับ 3 สิ่งนี้ เพื่อการได้ยินไม่สะดุด พร้อมทำกิจกรรมกับครอบครัวและคนที่คุณรัก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาการได้ยิน และกำลังจะซื้อเครื่องช่วยฟัง ลองเช็คดูว่า 9 ข้อนี้ มีข้อไหนที่คุณยังไม่ทราบบ้าง จะได้มั่นใจเลือกซื้อได้ดียิ่งขึ้นนะครับ
1. ไม่สามารถกลับไปได้ยินดีเหมือนเดิม ถึงแม่เทคโนโลยีจะถูกพัฒนามาได้มากขนาดไหน แต่เครื่องช่วยฟังที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่สามารถรักษาให้คุณกลับไปได้ยินดีได้เหมือนเดิม 100 % ได้
2. ต่างประเภท ต่างประสิทธิภาพ เครื่องช่วยฟังจะมีหลายประเภท นักแก้ไขการได้ยินจะแนะนำประเภทที่เหมาะสมกับคุณ ขึ้นอยู่กับระดับการได้ยิน และการใช้ชีวิตประวันของคุณ
3. ยังมีเสียงรบกวนอยู่ เราอยากให้คุณทราบตามความเป็นจริงว่า เครื่องช่วยฟังที่คุณภาพดีที่สุด ก็ไม่สามารถกรองเสียงรบกวนออกไปได้ทั้งหมด เพียงแต่จะช่วยลดเสียงรบกวนลงไป และเพิ่มเสียงพูดให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น สำหรับการแก้ปัญหาเสียงรบกวนที่ดีที่สุด คุณควรจะเลือกเครื่องช่วยฟังที่มีไมโครโฟนรับฟังเสียงเฉพาะทิศทาง (Directional Microphone) ที่มาพร้อมกับระบบประมวลผลแบบดิจิตอล (Digital Signal Processing) ซึ่งจะทำให้คุณได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจนและลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีที่สุด
4. สวมใส่สบาย เพราะเครื่องช่วยฟังจะอยู่กับคุณทุกๆ วัน คุณจึงควรมีพิมพ์หูที่สวมใส่ได้พอดีกับช่องหูของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณใส่เครื่องช่วยฟังได้สบายจนแทบไม่รู้สึกถึงการสวมใส่เลย หากว่าการใส่เครื่องช่วยฟังทำให้คุณรู้สึกปวด คัน หรือมีเลือดไหลออกจากช่องหู ให้รีบไปขอคำแนะนำจากศูนย์เครื่องช่วยฟังที่คุณซื้อมา
5. ไม่ควรมีเสียงหวีด เป็นเรื่องปกติที่เวลาคุณกำลังสวมใส่เครื่องช่วยฟัง จะมีเสียงหวีดออกมาบ้าง ซึ่งจะหายไปหลังจากใส่ให้พอดีกับช่องหูแล้ว แต่หากยังมีเสียงหวีดภายหลังการใส่เครื่องช่วยฟัง ก็จะมาจากพิมพ์หูที่ไม่พอดีกับช่องหู คุณจึงควรกลับไปยังศูนย์เครื่องช่วยฟังที่คุณซื้อมา เพื่อให้เขาปรับพิมพ์หูให้เหมาะสม
6. ใช้ได้เฉพาะคน อย่าใช้เครื่องช่วยฟังของคนอื่น เพราะเครื่องช่วยฟังที่ดี ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องขยายทุกเสียงให้ดังขึ้น แต่เครื่องช่วยฟังที่ดี จะช่วยขยายเสียงในคลื่นความถี่ที่แต่ละคนสูญเสียไป และเนื่องจากแต่ละคนมีการสูญเสียการได้ยินในระดับที่แตกต่างกัน จึงจะต้องมีการปรับเครื่องช่วยฟังที่ต่างกันด้วย
7. แพทย์ก็เชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าแพทย์ทุกท่านที่จะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการสูญเสียการได้ยิน คุณจึงควรเลือกที่จะขอคำปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนี้เท่านั้น
8. ทดลองใช้ก่อน การไปพูดคุยกับนักแก้ไขการได้ยินหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถยืนยันได้มากพอว่าจะทำให้คุณได้เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมกับคุณจริงๆ เราจึงแนะนำให้คุณลองเอาเครื่องช่วยฟังกลับไปลองใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งศูนย์เรายินดีให้คุณทดลองใช้ 3-7 วันแล้วค่อยตัดสินใจก่อนซื้อจริง
9. ใช้เวลาปรับตัว ใช่ว่าผู้ใช้เครื่องช่วยฟังทุกคนจะปรับตัวได้ทันทีทันใด โดยส่วนมากแล้วจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ขึ้นไปถึงจะค่อยๆ ชินกับเสียงที่ได้ยินชัดเจนขึ้น เราจึงไม่อยากให้คุณด่วนใจร้อนเกินไปกับการใส่เครื่องช่วยฟังในช่วงแรก
เพราะการมีการได้ยินที่ดี คือส่วนหนึ่งที่จะเติมเต็มให้ชีวิตคุณมีความสุขมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากให้คุณมีข้อมูลที่มากพอก่อนตัดสินใจในการซื้อเครื่องช่วยฟังแต่ละครั้ง
หรือหากคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่ม หรือทดลองใช้เครื่องช่วยฟัง เรายินดีให้บริการครับ
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
(ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก BetterHearing.org)