Tag Archive for: เครื่องช่วยฟัง
ความชื้น (Humidity) เกิดจากปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศ หากในอากาศมีปริมาณไอน้ำปะปนอยู่มาก แสดงว่ามีความชื้นมาก เช่นเดียวกันกับในบริเวณที่อากาศ มีปริมาณไอน้ำปะปนอยู่น้อย บริเวณนั้นจะมีความชื้นน้อย ซึ่งความชื้นของอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความดันและอุณหภูมิ
การรักษาระดับความชื้นภายในบ้านให้เหมาะสมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดย The American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers (ASHRAE) กล่าวว่า ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมของมนุษย์อยู่ระหว่าง 30 – 60 เปอร์เซ็นต์
ความชื้น ส่งผลเสียกับ “เครื่องช่วยฟัง” อย่างไร?
ความชื้นในอากาศเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้วสภาพอากาศที่มีความชื้นมากเกินไปหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อสุขภาพ และอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังของเราได้
“เครื่องช่วยฟัง ประกอบด้วยชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจร และสายไฟ”
ความชื้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องช่วยฟังเสียหาย ความชื้นที่สูงจะทำให้เกิดปัญหาการนำไฟฟ้าของอุปกรณ์ บางครั้งอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ รวมถึงการสึกกร่อนของอุปกรณ์ที่เกิดจากการเป็น “สนิม” และในขณะที่ความชื้นต่ำเกินไปก็จะทำให้อุปกรณ์เปราะหักได้ง่าย
หากเราเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในบริเวณที่มีอากาศชื้น หรืออากาศเย็นเกินไป การนำมาใช้ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ควรนำมาวางไว้ในสภาพอากาศและอุณภูมิห้องปกติสักพัก ก่อนเปิดใช้งาน และหลังจากใช้งานเสร็จควรเก็บไว้ในกล่องพลาสติก หรือกล่องสูญญากาศ ภายในกล่องบรรจุสารดูดความชื้นไว้ เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องช่วยฟัง
ปรึกษาปัญหาการได้ยินและเครื่องช่วยฟัง ได้ที่
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
ขอบคุณข้อมูล : Sod Engineering
หูตึงกับผู้สูงอายุ มักเป็นของคู่กัน เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายได้ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักแล้วย่อมเสื่อมลงตามกาลเวลา
ปัญหาหูตึงในผู้สูงอายุส่วนใหญ่เกิดจากความสามารถในการรับเสียงลดลง มักมีอาการหูอื้อ หรือหูตึง โดยมีอาการเริ่มแรกคือ ไม่ค่อยได้ยินเสียงแหลมๆ หรือเสียงที่มีความถี่สูง เช่น เสียงผู้หญิง เสียงดนตรีคีย์สูงๆ หรือเมื่ออยู่ในสถานที่ซึ่งมีเสียงรบกวนก็อาจฟังไม่เข้าใจ ทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตในการสื่อสารกับผู้อื่นน้อยลงโดยไม่รู้ตัว และเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการพบปะ พูดคุยกับผู้อื่น เนื่องจากเมื่อสนทนาแล้วต้องให้ผู้อื่นพูดซ้ำๆ เสียงดังๆ ผู้สูงอายุบางคนอาจจะต้องมองหน้า มองปาก เพราะฟังด้วยหูอย่างเดียวไม่รู้เรื่องแล้ว
“สิ่งนี้เป็นสัญญาณเตือนว่า…ถึงเวลาที่ควรพาท่านเข้ารับการรักษาหรือควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการได้ยินแล้ว เพราะหากปล่อยไว้นาน ท่านอาจจะไม่ได้ยินอีกเลย ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลต่อการเกิดปัญหาซึมเศร้าได้”
การป้องกันและดูแลการได้ยิน ในผู้สูงอายุ
- ควรตรวจสุขภาพการได้ยินเป็นประจำทุกปี เมื่ออายุ 60 ปี ขึ้นไป
- ควบคุมดูแลโรคประจำตัว เพื่อป้องกันปัญหาแทรกซ้อนที่อาจทำให้หูตึงได้
- ในกรณีที่มีปัญหาการได้ยินขั้นรุนแรง และรบกวนคุณภาพชีวิตประจำวัน ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพการได้ยินด้วยการใช้เครื่องช่วยฟัง (Hearing aids) ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุดีขึ้นได้
“การใส่เครื่องช่วยฟัง จะช่วยกระตุ้นการได้ยินให้ส่งคลื่นเสียงไปยังสมอง เพื่อคงการทำงานของสมองไว้”
ลูกหลานควรดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด คอยให้กำลังใจ มีปฏิสัมพันธ์กับท่านอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะคงการได้ยิน และสร้างความสุขให้กับท่าน
เราพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาการได้ยิน หูตึง หูหนวก ไม่ได้ยิน
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
เมื่อคุณหรือคนที่คุณรักมีปัญหาการได้ยิน หูตึง ก็อยากได้เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมกับความต้องการที่สุดใช่ไหม? ก่อนที่คุณจะเลือกเครื่องช่วยฟังสักเครื่องนั้น คุณควรทราบว่าเครื่องช่วยฟังแต่ละรุ่น มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้มีหน้าที่อย่างไร และช่วยในเรื่องอะไรบ้าง…
คุณสมบัติเครื่องช่วยฟัง ที่ควรรู้
Frequency Composition
เสียงที่เราได้ยินจะมีหลากหลายคลื่นความถี่ คนที่มีปัญหาการได้ยินก็จะสูญเสียการได้ยินที่คลื่นความถี่ต่างกัน ด้วยคุณสมบัติ Frequency Composition นี้ เครื่องช่วยฟังจะช่วยย้ายคลื่นความถี่ที่คุณสูญเสียไป ให้มาอยู่ในช่วงที่คุณยังได้ยิน คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ยินชัดเจนในทุกสถานการณ์
Adaptive Noise Reduction
เวลาออกไปในสถานที่เสียงดัง มีเสียงรบกวนเยอะ คุณสมบัติ Adaptive Noise Reduction จะช่วยลดเสียงรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมกับขยายเสียงพูดให้คุณสนทนากับเพื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Reverb Reduction
เสียงก้องเวลาเดินไปในห้องโถงขนาดใหญ่ มักจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ใส่เครื่องช่วยฟัง คุณสมบัติ Reverb Reduction จึงช่วยลดเสียงก้องให้คุณมีการได้ยินที่ดียิ่งขึ้น
Transient Noise Reduction
เสียงช้อนกระทบกับส้อม เสียงแก้วน้ำกระทบกัน ทุกเสียงแหลมที่รบกวนการได้ยิน จะถูกลดลงไปด้วยคุณสมบัติ Transient Noise Reduction
Binaural Environment Classification
ด้วยคุณสมบัติ Binaural Environment Classification จะช่วยให้เครื่องช่วยฟังทั้ง 2 ข้างทำงานประสานกัน จนทำให้คุณได้ยินอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
Wind Noise Monitor
หมดความกังวลเรื่องเสียงลมที่พัดผ่าน เพราะคุณสมบัติ Wind Noise Monitor จะช่วยลดเสียงรบกวนนี้ ให้คุณได้ยินและพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
Data Learning
เมื่อคุณใช้งานเครื่องช่วยฟังไปซักพัก คุณสมบัติ Data Learning จะช่วยจดจำการใช้งาน และปรับการทำงานเข้ากับทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของคุณ
Adaptive Directional
ด้วยระบบอันชาญฉลาดนี้ เครื่องช่วยฟังของคุณจะปรับไมโครโฟนไปตามทิศทางเสียงพูดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณได้ยินเสียงพูดชัดเจนกว่าเสียงรอบข้างอื่นๆ
คุณสมบัติที่แตกต่างกันในเครื่องช่วยฟังแต่ละรุ่น เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล คุณจึงควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง เพื่อให้การใส่เครื่องช่วยฟังของคุณนั้นสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
สำหรับผู้ที่มีปัญหาการได้ยิน และกำลังจะซื้อเครื่องช่วยฟัง ลองเช็คดูว่า 9 ข้อนี้ มีข้อไหนที่คุณยังไม่ทราบบ้าง จะได้มั่นใจเลือกซื้อได้ดียิ่งขึ้นนะครับ
1. ไม่สามารถกลับไปได้ยินดีเหมือนเดิม ถึงแม่เทคโนโลยีจะถูกพัฒนามาได้มากขนาดไหน แต่เครื่องช่วยฟังที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่สามารถรักษาให้คุณกลับไปได้ยินดีได้เหมือนเดิม 100 % ได้
2. ต่างประเภท ต่างประสิทธิภาพ เครื่องช่วยฟังจะมีหลายประเภท นักแก้ไขการได้ยินจะแนะนำประเภทที่เหมาะสมกับคุณ ขึ้นอยู่กับระดับการได้ยิน และการใช้ชีวิตประวันของคุณ
3. ยังมีเสียงรบกวนอยู่ เราอยากให้คุณทราบตามความเป็นจริงว่า เครื่องช่วยฟังที่คุณภาพดีที่สุด ก็ไม่สามารถกรองเสียงรบกวนออกไปได้ทั้งหมด เพียงแต่จะช่วยลดเสียงรบกวนลงไป และเพิ่มเสียงพูดให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น สำหรับการแก้ปัญหาเสียงรบกวนที่ดีที่สุด คุณควรจะเลือกเครื่องช่วยฟังที่มีไมโครโฟนรับฟังเสียงเฉพาะทิศทาง (Directional Microphone) ที่มาพร้อมกับระบบประมวลผลแบบดิจิตอล (Digital Signal Processing) ซึ่งจะทำให้คุณได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจนและลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีที่สุด
4. สวมใส่สบาย เพราะเครื่องช่วยฟังจะอยู่กับคุณทุกๆ วัน คุณจึงควรมีพิมพ์หูที่สวมใส่ได้พอดีกับช่องหูของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณใส่เครื่องช่วยฟังได้สบายจนแทบไม่รู้สึกถึงการสวมใส่เลย หากว่าการใส่เครื่องช่วยฟังทำให้คุณรู้สึกปวด คัน หรือมีเลือดไหลออกจากช่องหู ให้รีบไปขอคำแนะนำจากศูนย์เครื่องช่วยฟังที่คุณซื้อมา
5. ไม่ควรมีเสียงหวีด เป็นเรื่องปกติที่เวลาคุณกำลังสวมใส่เครื่องช่วยฟัง จะมีเสียงหวีดออกมาบ้าง ซึ่งจะหายไปหลังจากใส่ให้พอดีกับช่องหูแล้ว แต่หากยังมีเสียงหวีดภายหลังการใส่เครื่องช่วยฟัง ก็จะมาจากพิมพ์หูที่ไม่พอดีกับช่องหู คุณจึงควรกลับไปยังศูนย์เครื่องช่วยฟังที่คุณซื้อมา เพื่อให้เขาปรับพิมพ์หูให้เหมาะสม
6. ใช้ได้เฉพาะคน อย่าใช้เครื่องช่วยฟังของคนอื่น เพราะเครื่องช่วยฟังที่ดี ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องขยายทุกเสียงให้ดังขึ้น แต่เครื่องช่วยฟังที่ดี จะช่วยขยายเสียงในคลื่นความถี่ที่แต่ละคนสูญเสียไป และเนื่องจากแต่ละคนมีการสูญเสียการได้ยินในระดับที่แตกต่างกัน จึงจะต้องมีการปรับเครื่องช่วยฟังที่ต่างกันด้วย
7. แพทย์ก็เชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าแพทย์ทุกท่านที่จะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการสูญเสียการได้ยิน คุณจึงควรเลือกที่จะขอคำปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนี้เท่านั้น
8. ทดลองใช้ก่อน การไปพูดคุยกับนักแก้ไขการได้ยินหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถยืนยันได้มากพอว่าจะทำให้คุณได้เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมกับคุณจริงๆ เราจึงแนะนำให้คุณลองเอาเครื่องช่วยฟังกลับไปลองใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งศูนย์เรายินดีให้คุณทดลองใช้ 3-7 วันแล้วค่อยตัดสินใจก่อนซื้อจริง
9. ใช้เวลาปรับตัว ใช่ว่าผู้ใช้เครื่องช่วยฟังทุกคนจะปรับตัวได้ทันทีทันใด โดยส่วนมากแล้วจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ขึ้นไปถึงจะค่อยๆ ชินกับเสียงที่ได้ยินชัดเจนขึ้น เราจึงไม่อยากให้คุณด่วนใจร้อนเกินไปกับการใส่เครื่องช่วยฟังในช่วงแรก
เพราะการมีการได้ยินที่ดี คือส่วนหนึ่งที่จะเติมเต็มให้ชีวิตคุณมีความสุขมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากให้คุณมีข้อมูลที่มากพอก่อนตัดสินใจในการซื้อเครื่องช่วยฟังแต่ละครั้ง
หรือหากคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่ม หรือทดลองใช้เครื่องช่วยฟัง เรายินดีให้บริการครับ
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
(ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก BetterHearing.org)
หลายคนพบว่าตนเองกำลังมีปัญหาการได้ยิน และกำลังเลือกว่าควรใส่เครื่องช่วยฟังแบบใดดี ขนาดเครื่องช่วยฟัง เล็ก – ใหญ่ หลักๆ แล้วเครื่องช่วยฟังมี 3 ประเภทที่ทุกคนควรรู้จัก
แล้วเครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหู (ITE) จะเหมาะกับฉันไหม?
ถ้าอยากได้เครื่องช่วยฟังขนาดเล็กที่ไม่ต้องคล้องหู ประเภทในช่องหูก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับระดับการได้ยินและชีวิตประจำวันของคุณด้วย ผมเลยรวมทั้งข้อดีและข้อเสียมาให้คุณอ่านเพื่อการตัดสินใจเพิ่มเติม
ข้อดีของเครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหู
- ซ่อนตัวได้ ด้วยความที่มีขนาดเล็กและอยู่ในช่องหู คนรอบข้างคุณจึงอาจไม่เห็นว่าคุณกำลังใส่เครื่องช่วยฟังอยู่
- สบายไร้สาย คุณจะไม่ต้องกังวลกับสายนำเสียง หรือตัวเครื่องที่ต้องคล้องหู
- คุยมือถือได้ คุณสามารถเอาโทรศัพท์มือถือแนบกับหูเพื่อพูดคุยได้ตามปกติ
- ไร้เสียงลม เนื่องจากมีใบหูกันไว้ เครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหูจึงอาจไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงลมซักเท่าไหร่
ข้อเสียของเครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหู
- ไม่เหมาะกับผู้ที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง เครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหูจะเหมาะกับผู้ที่สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น หากต้องการกำลังเสียงที่มากขึ้น จึงควรเปลี่ยนไปใช้เครื่องช่วยฟังประเภททัดหลังหู
- ใช้แบตเตอรี่เปลืองกว่า จากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่าผู้ใช้งานเครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหูจะมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยกว่าเครื่องช่วยฟังประเภทอื่น
- ลูกเล่นน้อยกว่า เนื่องจากเครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหูมีขนาดเล็ก ไม่สามารถออกแบบให้มีปุ่มหรือมีแผงวงจรที่ซับซ้อนได้ คุณจึงอาจไม่สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลายเท่ากับเครื่องช่วยฟังประเภทอื่น
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนเลือกประเภทเครื่องช่วยฟังให้เหมาะสม และแนะนำว่าให้ตรวจการได้ยินจากนักแก้ไขการได้ยินที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เขาจะแนะนำและให้คุณลองใส่เครื่องช่วยฟัง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้เครื่องช่วยฟังที่เหมาะกับชีวิตประจำวันจริงๆ
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
“ฉันต้องใส่เครื่องช่วยฟังจริงเหรอ?”
ใส่เครื่องช่วยฟังดีไหม? ใส่หรือไม่ใส่ดีกว่ากัน?
เชื่อไหมว่ามีคนไทยอยู่จำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาการได้ยิน แต่ก็ยังมีความลังเลที่จะใส่เครื่องช่วยฟัง เนื่องจากหลายเหตุผล ดังนี้
1. คิดว่าตัวเองยังได้ยินดีอยู่ คนส่วนมากกว่าจะยอมใส่เครื่องช่วยฟังก็ต่อเมื่อมีการสูญเสียการได้ยินมาในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการละเลยและไม่เห็นถึงความสำคัญของการตรวจการได้ยินประจำปี จึงทำให้ค่อยๆ สูญเสียการได้ยินลงทีละนิด จนเริ่มปรับตัวได้ และมารู้ตัวอีกทีต่อเมื่อสื่อสารกับคนรอบข้างลำบากแล้ว เราจึงแนะนำให้เข้ารับการตรวจการได้ยินเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ทราบและวางแผนการรักษาล่วงหน้าได้อย่างถูกวิธี
2. อายที่จะใส่เครื่องช่วยฟัง ในยุคที่ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ หลายคนจึงอายที่จะใส่เครื่องช่วยฟังเพราะกลัวคนรอบข้างมองว่าตนเองแก่หรือไม่มีความสามารถ อันที่จริงปัจจุบันนี้มีเครื่องช่วยฟังหลากหลายประเภทให้เลือก ซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกัน บางท่านที่เลือกใส่เครื่องช่วยฟังประเภทในช่องหูก็จะรู้สึกสบายใจที่จะใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หรือหากมีการสูญเสียการในระดับที่รุนแรงขึ้น ประเภททัดหลังหูก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลการตรวจการได้ยินของแต่ละบุคคล
3. รอให้สูญเสียการได้ยินทั้ง 2 ข้างก่อน เมื่อมีการสูญเสียการได้ยินเพียงข้างเดียว แพทย์บางท่านจะให้คำแนะนำว่ายังไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะอีกข้างยังได้ยินชัดเจนอยู่ ซึ่งอาจทำให้ไม่ทราบทิศทางของเสียงและเกิดอันตรายได้ เช่นการได้ยินเสียงรถแต่ไม่ทราบว่ามาจากซ้ายหรือขวา ทางที่ดีเราแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านหู คอ จมูก เพื่อได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับท่าน
4. แค่ไม่ได้ยิน ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ปัญหาการได้ยินถือว่าเป็นเป็นภัยเงียบ หลายคนลังเลไม่ยอมใส่เครื่องช่วยฟังก็เพราะคิดว่าการได้ยินไม่สำคัญเท่ากับการมองเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่มีปัญหาการได้ยินมักจะมีปัญหาตามมาหลายอย่าง เช่น ความเครียด แปลกแยก ไม่กล้าเข้าสังคม (อ่านความสำคัญของการได้ยินเพิ่มเติมได้ คลิกที่นี่) การได้ยินพลาดอาจทำให้คุณเสียหายได้มากกว่าที่คิด ลองคิดดูว่าหากคุณทำการค้าขายและฟังลูกค้าผิดจนขายพลาด หรือคนรักกำลังอธิบายความรู้สึกอย่างซาบซึ้งแต่คุณไม่ได้ยินเขา คุณคงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใช่ไหม?
5. เครื่องช่วยฟังจะดีจริงเหรอ? เป็นเรื่องปกติที่คุณจะไม่มั่นใจในการลองใช้สิ่งใหม่ๆ และบางครั้งอาจได้ยินเพื่อนบอกมาว่าเครื่องช่วยฟังไม่ได้ช่วยอะไร แต่อยากให้แยกแยะระหว่างเครื่องช่วยฟังที่ซื้อโดยไม่ปรับให้เข้ากับผลการได้ยิน เปรียบเทียบกับเครื่องช่วยฟังดิจิตอลจากศูนย์เราที่จะต้องตรวจการได้ยินอย่างละเอียดเพื่อทำการปรับเครื่องช่วยฟังให้เข้ากับระดับการได้ยินของคุณโดยเฉพาะ เสื้อผ้าที่สั่งตัดเพื่อคุณคนเดียวย่อมสวมใส่สบายได้ดีกว่าเสื้อผ้าทั่วไปแน่นอน ไม่ต่างอะไรกับเครื่องช่วยฟังที่ปรับให้เข้ากับระดับการได้ยิน ย่อมให้ประสิทธิภาพและให้ความพึงพอใจได้อย่างแน่นอน อีกอย่างคุณสามารถขอทดลองนำเครื่องช่วยฟังกลับไปใช้ก่อนได้นานสุดถึง 2 สัปดาห์ จึงไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล
6. ไว้ใจคนขายได้ดีแค่ไหน? อีกเหตุผลที่หลายคนยังไม่กล้าซื้อเครื่องช่วยฟังก็เพราะยังไม่มั่นใจในคนขายหรือศูนย์จำหน่ายว่ามีความรู้ในการแนะนำเครื่องช่วยฟังได้อย่างถูกต้องหรือไม่ รวมถึงบริการหลังการขายที่คอยบริการ เมื่อคุณมีปัญหา
7. ราคาแพงไป เมื่อเปรียบเทียบแว่นตาตามตลาดนัดกับแว่นตาจากร้านตัดแว่น คงปฏิเสธไม่ได้ถึงความแตกต่างกัน และยิ่งค่าสายตาในแต่ละข้างไม่เท่ากันแล้วนั้น ย่อมจำเป็นที่คุณจะเดินเข้าร้านตัดแว่นโดยปริยาย เครื่องช่วยฟังก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องช่วยฟังตามอินเตอร์เน็ต ราคาหลักพัน กับเครื่องช่วยฟังอย่างดีที่จำหน่ายในร้านขายเครื่องช่วยฟังโดยเฉพาะ แน่นอนว่าการใส่เครื่องแต่ละที่นั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ทั้งนี้แล้วไม่มีอะไรที่แพงเกินไปหากสิ่งนั้นคุ้มค่าและได้ประโยชน์กับคุณ และยิ่งไปกว่านั้นมันทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หลายคนลังเลก่อนที่จะตัดสินใจใส่เครื่องช่วยฟัง ดังนั้นการจะเลือกเครื่องช่วยฟังสักเครื่อง คุณควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือศูนย์บริการเครื่องช่วยฟังนั้นๆ
ทุกปัญหาการได้ยิน เรามีคำตอบ
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
เมื่อพูดถึงปัญหาของคนใส่เครื่องช่วยฟัง ส่วนมากก็คงหนีไม่พ้นปัญหา “เสียงรบกวน”
เช่น เสียงรถยนต์ เสียงกลุ่มคนคุยกันเสียงดัง เสียงก้อง ที่คอยกวนใจในการฟัง ทำให้เรารู้สึกยากในการฟังคู่สนทนาว่าเขากำลังพูดอะไร หากยิ่งเป็นผู้ที่ไม่เคยใส่เครื่องช่วยฟังมาก่อนแล้วมาใส่เครื่อง จะยิ่งทำให้รู้สึกรำคาญเสียงรบกวนมากในช่วง 2 – 3 อาทิตย์แรก หลังจากใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะพวกเขายังไม่คุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยิน และยังคุ้นชินกับการอยู่ในโลกเงียบมาก่อน
เสียงรบกวน อาจทำให้เครียดจนไม่อยากใส่เครื่องช่วยฟัง ควรแก้ปัญหาอย่างไรดี?
1. ใส่เครื่องช่วยฟัง 2 ข้าง ย่อมดีกว่าใส่ข้างเดียว
จากข้อมูลการใส่เครื่องช่วยฟังที่ผ่านมา การใส่เครื่องช่วยฟัง 2 ข้างจะทำให้ผู้ใส่ได้ยินชัดเจนขึ้น และยังช่วยให้ทราบว่าเสียงมาจากตำแหน่งไหน จึงทำให้เข้าใจบทสนทนาได้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน
2. เลือกเครื่องช่วยฟัง ระบบดิจิตอล
ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล เครื่องช่วยฟังบางรุ่นจึงมีระบบลดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Noise Reduction Plus ที่สามารถลดเสียงรบกวนแต่ไม่ลดคุณภาพเสียงพูด จึงทำให้ผู้ใส่เข้าใจคำพูดได้ดียิ่งขึ้น ลองปรึกษาศูนย์บริการเครื่องช่วยฟังเพื่อทดลองระบบลดเสียงรบกวนที่มีให้เลือก ว่ารุ่นไหนน่าจะเหมาะกับคุณที่สุด เพราะการได้ยินที่ดี จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คุณได้
3. ใช้ระบบจับทิศทางเสียงอัตโนมัติ
เครื่องช่วยฟังในอดีตจะมีไมโครโฟนที่รับเสียงจากทุกทิศทาง (Omnidirectional) จึงทำให้ผู้ใส่อาจได้รับความยากลำบากในการเข้าใจคำพูดที่อยู่ตรงหน้า แต่หากเลือกเครื่องช่วยฟังรุ่นที่มีไมโครโฟนแบบจับทิศทางเสียงอัตโนมัติ (Automatic Directionality) ระบบก็จะประมวลผลในการจับทิศทางเสียงพูด เพื่อขยายเฉพาะเสียงพูดให้ชัดเจน โดยไม่ขยายเสียงรบกวนให้กวนใจ
4. ปรึกษาเพื่อออกแบบการได้ยิน
ที่ศูนย์บริการเครื่องช่วยฟังจะมีนักแก้ไขการได้ยินที่พร้อมให้บริการออกแบบการได้ยินให้เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของแต่ละคน บางคนต้องพบปะลูกค้าตลอดเวลา บางคนชอบทำสวน บางคนชอบดูโทรทัศน์ บางคนชอบไปฟังวงดนตรีสด หลากหลายรูปแบบการใช้ชีวิตแบบนี้ ก็ต้องการเครื่องช่วยฟังที่แตกต่างกัน
นอกเหนือจากวิธีการที่เราแนะนำนี้ ผู้ใส่เครื่องช่วยฟังอาจต้องปรับตัวเพื่อให้สื่อสารได้อย่างมีความสุขขึ้น ซึ่งเราได้เขียนบทความ 6 วิธีการสื่อสาร สำหรับคนหูตึง
เราพร้อมได้ยินทุกคำถาม เพื่อให้คุณได้ยินดีขึ้น
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai
เชื่อหรือไม่ “การได้ยิน” มีความสำคัญในลำดับต้นๆ รองลงมาจาก “การมองเห็น” แต่หลายคนที่กำลังมีปัญหาการได้ยิน หรือหูตึง กลับชะล่าใจไม่ยอมไปพูดคุยกับนักแก้ไขการได้ยินหรือแพทย์ ไม่กล้าใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะพวกเขายังไม่ทราบว่าการสูญเสียการได้ยินสร้างผลกระทบด้านอื่นในชีวิตมากอย่างไร
ผลการวิจัยของ National Council on the Aging ในประเทศสหรัฐอเมริกา จากจำนวนคนที่มีปัญหาการได้ยิน 2,000 ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า…
การใส่เครื่องช่วยฟัง
สามารถช่วยให้คุณภาพภาพชีวิตพวกเขาดีขึ้นในหลายด้าน ดังนี้
- มีความมั่นใจมากขึ้น
- พูดคุย สื่อสารง่ายขึ้น
- ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้น
- อารมณ์ดี นิ่งสงบมากขึ้น
- สภาพจิตใจดีขึ้น
- สุขภาพองค์รวมดีขึ้น
- กล้าออกสังคมมากขึ้น
การใส่เครื่องช่วยฟัง
ยังช่วย ลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- การทำตัวแปลกแยก ออกห่างจากสังคม
- อารมณ์หงุดหงิดกับคนรอบข้าง
- ภาวะซึมเศร้า
- ภาวะจิตบกพร่อง หวาดระแวง
- ความเครียด
- ไม่มั่นใจ มองตัวเองในแง่ลบ
หากคุณหรือคนใกล้เคียง กำลังมีปัญหาการได้ยินหรือหูตึง ควรรีบพบนักแก้ไขการได้ยิน (Audiologist) หรือแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษาและลองใส่เครื่องช่วยฟัง
เพราะไม่ใช่แค่ “การได้ยิน” จะดีขึ้น แต่คุณกำลังจะได้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053271533, 0890537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai