สัมผัสเสียงดัง เกินกว่า 85 เดซิเบลเป็นประจำ เพิ่มความเสี่ยงการสูญเสียการได้ยินจากเสียงดัง (Noise-Induced Hearing Loss) เป็นการสูญเสียการได้ยินแบบถาวรของหูชั้นใน
Posts
Presbycusis หรือ Age-Related hearing loss สูญเสียการได้ยินเกี่ยวข้องกับอายุ พบบ่อยที่สุดทั่วโลก เกิดจากความเสียหายภายในหูชั้นใน หรือเส้นประสาทหูที่เชื่อมไปยังสมอง การได้ยินลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป
สูญเสียการได้ยิน ความถี่สูง เป็นการสูญเสียการได้ยินที่พบบ่อยที่สุด เสียงแหลมจะได้ยินยากขึ้น เกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย แต่มักพบในผู้สูงอายุที่สูญเสียการได้ยินตามวัย และผู้สัมผัสเสียงดัง
หูไม่ได้ยิน หูตึง สูญเสียการได้ยิน บกพร่องทางการได้ยิน (Hearing loss) หมายถึง ภาวะที่ความสามารถในการได้ยินหรือรับเสียงลดลง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยไปจนถึงไม่ได้ยินเลย หรือที่เรียกว่า หูหนวก (Deaf หรือ Deafness)
ประเภทการสูญเสียการได้ยิน
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
• ประเภทที่ 1 ชนิดการนำเสียงบกพร่อง
• ประเภทที่ 2 ชนิดประสาทรับเสียงบกพร่อง
• ประเภทที่ 3 ชนิดการรับเสียงบกพร่องแบบผสม
1. ประเภทการสูญเสียการได้ยิน ชนิดการนำเสียงบกพร่อง (Conductive hearing loss)
สาเหตุมาจากความผิดปกติของหูชั้นนอก หรือ/และหูชั้นกลาง แต่ประสาทหูยังดีอยู่ สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ยาหรือการผ่าตัด โดยสาเหตุมักเกิดจาก
• เยื่อแก้วหูทะลุ ผู้ป่วยมักจะมีความผิดปกติทางการได้ยินหลังการได้รับบาดเจ็บ
• ขี้หูอุดตัน
• หูชั้นกลางอักเสบ หรือหูน้ำหนวก
• ภาวะมีน้ำขังอยู่ในหูชั้นกลาง
• ท่อยูสเตเชียน ทำงานผิดปกติ ท่อที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางและโพรงหลังจมูก
• โรคหินปูนในหูชั้นกลาง ส่งผลให้เกิดอาการหูตึง โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย การรักษาต้องทำการผ่าตัดหรือใส่เครื่องช่วยฟัง
• กระดูกหูชั้นกลางหัก หรือหลุดจากอุบัติเหตุ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหูอื้อหูตึงทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ การรักษาต้องอาศัยการผ่าตัด
• สาเหตุอื่นๆ เช่น หูพิการแต่กำเนิด สิ่งแปลกปลอมเข้าหู แก้วหูอักเสบ เยื่อแก้วหูหนา มีเลือดออกในหูชั้นกลาง ฯลฯ
2. ประเภทการสูญเสียการได้ยิน ชนิดประสาทรับเสียงบกพร่อง (Sensorineural hearing loss)
เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของส่วนหูชั้นใน ประสาทรับเสียง ไปจนถึงสมอง ความผิดปกติบริเวณนี้จะทำให้ได้ยินเสียงแต่ฟังไม่รู้เรื่อง ส่วนใหญ่จะทำให้เกิดภาวะหูตึง หูหนวกถาวร ไม่สามารถรักษาให้หายได้ โดยสาเหตุมักเกิดจาก
• ประสาทหูเสื่อมตามวัย/หูตึงในผู้สูงอายุ (80% มักเกิดจากสาเหตุนี้) มีสาเหตุมาจากเซลล์ขนในหูชั้นในและเส้นประสาทหูค่อยๆ เสื่อมไปตามอายุ โดยเฉพาะเซลล์ขนส่วนฐานของคอเคลียจะเสื่อมไปก่อน ทำให้สูญเสียการได้ยินช่วงเสียงแหลมเมื่ออายุมากขึ้น การเสื่อมจะลามไปถึงช่วงความถี่กลางสำหรับฟังเสียงพูด ทำให้ผู้สูงอายุเริ่มหูตึง ฟังไม่ชัดเจน และมักบ่นว่าได้ยินเสียงแต่ฟังไม่รู้เรื่อง โดยมากผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการเมื่ออายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป ในผู้ชายจะมีโอกาสเป็นมากกว่าและมีความรุนแรงกว่าผู้หญิง การใส่เครื่องช่วยฟังจะช่วยให้ได้ยินได้
• ประสาทหูเสื่อมจากเสียงที่ดังมากๆ เป็นการเสื่อมของเส้นประสาทหูที่เกิดจากการได้ยินเสียงที่ดังมากในระยะเวลาสั้น ๆ หรือได้ยินเพียงครั้งเดียว เช่น การได้ยินเสียงฟ้าผ่า เสียงระเบิด เสียงปืน เสียงพลุ หรือเสียงประทัด เป็นต้น
• ประสาทหูเสื่อมแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการได้ยินเสียงดังระดับปานกลางหรือดังเกิน 85 เดซิเบลขึ้นไป เป็นเวลานานๆ เช่น ผู้ที่ทำงานในโรงงาน, ทหาร/ตำรวจที่ต้องฝึกซ้อมการยิงปืนเป็นประจำ, เสียงดังจากเครื่องจักรหรือยวดยานพาหนะต่างๆ, เสียงเพลงหรือเสียงดนตรี เสียงในงานคอนเสิร์ตที่ดังมากๆ เป็นต้น เนื่องจากเซลล์ประสาทหูถูกคลื่นเสียงทำลายไป ค่อยๆ เสื่อม และมักเป็นแบบถาวร และไม่มีทางแก้ไขให้กลับคืนมาดีได้เหมือนเดิม ถ้ายังอยู่ในที่ที่มีเสียงดังเช่นเดิม อาการหูตึงจะค่อยๆ เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ อาจรุนแรงจนถึงขั้นหูหนวกได้
• ประสาทหูเสื่อมแต่กำเนิด
• สาเหตุทางกรรมพันธุ์
• สาเหตุจากโรคทางกาย เช่น โรคเมเนียส์/น้ำในหูไม่เท่ากัน โรคโลหิตจาง โรคเบาหวาน เป็นต้น
• สาเหตุที่เกิดในสมอง
• หูชั้นในอักเสบ
• การได้รับอุบัติเหตุของหูชั้นใน
• การมีรูรั่วติดต่อระหว่างหูชั้นกลางและหูชั้นใน
• การใช้ยาที่มีพิษต่อประสาทหู
3. ประเภทการสูญเสียการได้ยิน ชนิดการรับฟังเสียงบกพร่องแบบผสม (Mixed hearing loss)
เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติในการนำเสียงบกพร่องร่วมกับประสาทรับเสียงบกพร่อง ซึ่งพบในโรคที่มีความผิดปกติของหูชั้นนอก หูชั้นกลาง ร่วมกับความผิดปกติของหูชั้นใน โรคที่พบ เช่น
• โรคหูน้ำหนวกเรื้อรังที่ลุกลามเข้าไปในหูชั้นใน
• โรคในหูชั้นกลางของผู้สูงอายุที่มีปัญหาประสาทรับเสียงเสื่อมด้วย
• โรคหินปูนเกาะกระดูกโกลนและมีพยาธิสภาพในหูชั้นในร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม มีผู้สูญเสียการได้ยินจำนวนไม่น้อยที่แพทย์ตรวจแล้วไม่พบสาเหตุ
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาการได้ยิน เราพร้อมให้คำปรึกษา
ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai