Tag Archive for: ประสาทหูเทียม

โรคไข้หูดับ เนื้อหมูดิบ

โรคไข้หูดับ หรือโรคติดเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอคคัส ซูอิส พบครั้งแรกในมนุษย์ เมื่อปี พ.ศ. 2511 ที่ประเทศเดนมาร์ก ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด

พิการทางการได้ยิน หรือสื่อความหมาย 2568

สถานการณ์ผู้พิการ ในประเทศไทย พ.ศ.2568

กรมส่งเสริมแลพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568

จำนวนผู้มีบัตรประจำตัวคนพิการ

คน
0
woman

1,085,781 คน (48.64%)

man

1,146,359 คน (51.36%)

ความพิการ-ตามช่วงวัย

8 ประเภทความพิการของประชากรไทย

ผู้พิการ
2025-ประเภทความพิการ
2025 การเคลื่อนไหว
2025-การได้ยิน-สื่อความหมาย
2025-ทางการเห็น

อันดับ 2

พิการทางการได้ยิน หรือสื่อความหมาย

พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย

ตามหลักเกณฑ์ความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย คือ หูตึง 2 ข้าง, หูหนวก 2 ข้าง, พูดไม่ได้

  • หูตึง : ผู้ใหญ่ สูญเสียการได้ยินระดับ 40 เดซิเบลขึ้นไปทั้งสองข้าง ไม่เกิน 80 เดซิเบล และเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี สูญเสียการได้ยินระดับ 35 เดซิเบลขึ้นไปทั้งสองข้าง ไม่เกิน 80 เดซิเบล

  • หูหนวก : สูญเสียการได้ยินระดับ 80 เดซิเบลขึ้นไป ทั้งสองข้าง

หมายเหตุ : หูตึง 1 ข้าง หรือหูหนวก 1 ข้าง ไม่เข้าหลักเกณฑ์
  1. หูหนวก หมายถึง ภาวะบกพร่องทางการได้ยินที่มีผลการตรวจการได้ยินโดยใช้เสียง ความถี่ที่ 500 เฮิรตซ์ 1,000 เฮิรตซ์ 2,000 เฮิรตซ์ และ 4,000 เฮิรตซ์ ในหูข้างที่ได้ยินดีกว่า มีการสูญเสียการได้ยินเฉลี่ยที่ความดังของเสียง ตั้งแต่ 80 เดซิเบลขึ้นไป ทำให้มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม โดยต้องใช้เครื่องมือเฉพาะสำหรับ ตรวจการได้ยินและตรวจในสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานพยาบาลเอกชนที่รัฐกำหนด
  2. หูตึง หมายถึง ภาวะบกพร่องทางการได้ยินที่มีผลการตรวจการได้ยินโดยใช้เสียง ความถี่ที่ 500 เฮิรตซ์ 1,000 เฮิรตซ์ 2,000 เฮิรตซ์ และ 4,000 เฮิรตซ์ ในหูข้างที่ได้ยินดีกว่า มีการสูญเสียการได้ยินเฉลี่ยที่ความดังของเสียง น้อยกว่า 80 เดซิเบลลงมาจนถึง 40 เดซิเบล ในผู้ใหญ่ หรือน้อยกว่า 80 เดซิเบล ลงมาจนถึง 35 เดซิเบล ในเด็กที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ทำให้มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม โดยต้องใช้เครื่องมือเฉพาะสำหรับตรวจการได้ยินและตรวจในสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานพยาบาลเอกชนที่รัฐกำหนด
  3. สื่อความหมาย หมายถึง ภาวะบกพร่องทางการสื่อความหมาย ทั้งการพูดและภาษา เช่น ผู้ป่วยไร้กล่องเสียง ผู้ป่วยเด็กสมองพิการ (Cerebral Palsy) ที่มีปัญหาการพูดแบบ dysarthria ระดับรุนแรง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุทางสมอง ที่มีปัญหาการสื่อสารแบบ aphasia, dysarthria หรือ apraxia และผู้ป่วยกลุ่มที่มีความเสื่อม (degenerative change) ของระบบประสาท เช่น ผู้ป่วยโรค Parkinson ผู้ป่วยโรค Dementia ทำให้มีข้อจำกัดในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน หรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม

พิการทางการได้ยิน

หูตึง หูหนวก หูไม่ได้ยินแก้ไขได้

deafness พิการทางการได้ยิน

       หูตึง หูหนวก ความผิดปกติหรือความเสื่อมถอยของอวัยวะสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย แก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือการได้ยิน

       ระดับการได้ยิน (dB) เป็นแนวทางสำหรับการเลือกอุปกรณ์ช่วยเหลือการได้ยินให้กับผู้บกพร่องทางการได้ยิน

เครื่องช่วยฟัง

สูญเสียการได้ยิน น้อยกว่าระดับ 80 เดซิเบล

ประสาทหูเทียม

สูญเสียการได้ยิน มากกว่าระดับ 80 เดซิเบล

กรณีการได้ยินยังคงเหลืออยู่ หรือไม่แน่ใจว่าการสูญเสียการได้ยินอยู่ในระดับใด เหมาะกับอุปกรณ์ช่วยเหลือการได้ยินประเภทไหน เริ่มต้นด้วยการ…ตรวจการได้ยิน

       หูตึง หรือมีการได้ยินคงเหลืออยู่ สำหรับผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน ท่านยังสามารถเลือกเครื่องช่วยฟังให้กับตัวเองได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่การได้ยินอยู่ในระดับหูหนวก หรือเครื่องช่วยฟังไม่ได้ประโยชน์ การผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมภายใต้กะโหลกศีรษะ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเท่านั้น

       การแก้ไขการได้ยินตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความรุนแรงของอาการหูไม่ได้ยินที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม หูและสมองที่ไม่ได้ยินและไม่ได้ถูกใช้งาน นานวันอาจทำให้หลงลืมคำพูดและความหมาย การฟื้นฟูให้กลับมาจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา และหากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการแก้ไข อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะสมองเสื่อม [อ่านเพิ่มเติม]

หู-และ-สมอง

หูไม่ได้ยิน ไม่ได้เป็นเรื่องน่าอาย แก้ไขได้ แต่การขอให้ผู้อื่นพูดซ้ำๆ บ่อยครั้ง พูดเสียงดัง หรือตะโกน สามารถสร้างความเหนื่อยล้า ความเครียด และอาจสร้างการรบกวนให้กับผู้อื่น

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่

ศูนย์ เครื่องช่วยฟัง อินทิเม็กซ์ เชียงใหม่

Community เล็กๆ ของผู้มีปัญหาการได้ยินทุกช่วงวัย


     ศูนย์บริการที่พร้อมให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือผู้มีปัญหาการได้ยิน หูไม่ได้ยิน หูตึง และหูหนวก

     คุณจะพบกับเด็กเล็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการได้ยิน Community แห่งการแลกเปลี่ยนความคิด แบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ที่หลากหลาย จากกลุ่มคนที่หลากหลาย ที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน

“หูไม่ได้ยิน ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แก้ไขได้”

เทคโนโลยีช่วยเหลือการได้ยิน

เมื่อการได้ยินของคุณยังคงเหลืออยู่

เครื่องช่วยฟัง ชาร์จไฟ

เทคโนโลยีใหม่! เครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง 

  • Tap ตัวเครื่องช่วยฟัง เพื่อรับสายสนทนา
  • Charging ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว 30 นาที ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง
  • Bluetooth เชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สาย เช่น laptop smartphone
  • Application ปรับแต่งเสียง ควบคุมการทำงานบนแอปพลิเคชัน

การได้ยินหูซ้ายและหูขวาแตกต่าง สภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์แตกต่าง เราจึงใส่ใจการดูแลการได้ยินเฉพาะบุคคล

หูตึง หูหนวก หูไม่ค่อยได้ยิน ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา

ขอบคุณข้อมูล : กรมส่งเสริมแลพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 
logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

เลือก อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน อย่างเหมาะสม

เลือก อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน อย่างเหมาะสมตามระดับการสูญเสียการได้ยิน เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้มีอาการหูไม่ได้ยิน หูตึง หรือหูหนวก

ภาคเหนือ ไข้หูดับ ปีพ.ศ.2564

 

จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทย
ฉบับที่ 21/2564 ประจำสัปดาห์ที่ 22 (วันที่ 30 พ.ค. – 5 มิ.ย. 64)

 

รายงานพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 171 ราย

เสียชีวิต 11 ราย

 

กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน ได้แก่ อายุมากกว่า 65 ปี รองลงมาคือ อายุ 55 – 64 ปี และอายุ 45 – 54 ปี ตามลำดับ อาชีพที่พบผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ รับจ้าง รองลงมาคือ เกษตรกร ภาคที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ ภาคเหนือ รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ นครราชสีมา และสุโขทัย ตามลำดับ

 

      พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมและวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการป่วยด้วยโรคไข้หูดับ โรคไข้หูดับเกิดจาก เชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis)

 

โรคไข้หูดับ สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ


1. การบริโภคเนื้อหมู และเลือดหมูที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ

2. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ ทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค ติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา

 

 

อาการหลังได้รับเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส หรือไข้หูดับ ในไม่กี่ชั่วโมง จนถึง 5 วัน


  • มีไข้สูง
  • ปวดศีรษะรุนแรง
  • เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้
  • อาเจียน
  • ถ่ายเหลว
  • คอแข็ง
  • สูญเสียการได้ยินถึงขั้นหูหนวกถาวร
  • ข้ออักเสบ
  • เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังติดเชื้อรุนแรง
  • ติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้

 

กลุ่มเสี่ยงที่เมื่อได้รับเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ

 

กรมควบคุมโรค แนะนำวิธีป้องกันโรคไข้หูดับ ดังนี้


  1. ควรรับประทานหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น และเลือกซื้อเนื้อหมูที่ไม่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำ ล้างมือด้วยน้ำสบู่ทุกครั้งหลังสัมผัส หากรับประทานอาหารปิ้งย่าง ขอให้ทำให้สุกก่อนเสมอ และแยกอุปกรณ์ที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและดิบ
  2. ผู้ที่สัมผัสกับหมู โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมใส่เสื้อและกางเกงที่ปกปิดมิดชิด ใส่รองเท้าและ ถุงมือทุกครั้งเมื่อเข้าไปทำงานในคอกสุกร หลีกเลี่ยงการจับซากสุกรที่ตายด้วยมือเปล่า ล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด  และผู้จำหน่าย ควรจำหน่ายเนื้อหมูที่มาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ทำความสะอาดแผงด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อทุกวันหลังเลิกขาย และเก็บเนื้อหมูที่จะขายในอุณหภูมิที่ตํ่ากว่า 10°C

 

      ทั้งนี้ หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังสัมผัสหมูที่ป่วยหรือรับประทานอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูไม่สุก ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการรับประทานหมูดิบให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดอัตราการหูหนวกและการเสียชีวิตได้

 

ข้อมูล : สายด่วนกรมควบคุมโรค สอบถามเพิ่มเติมได้ โทร. 1422

 

 

 


เราพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาการได้ยิน หูหนวก หูดับ

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
เฟซบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
ไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

10 ปัจจัย กับประสิทธิภาพการใช้ประสาทหูเทียม

 

        ด้วยสาเหตุและปัจจัยของผู้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน ภายหลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วมีความเป็นไปได้ที่ความสามารถในการรับฟังเสียง หรือการได้รับประโยชน์จากการใช้งานประสาทหูเทียมนั้นจะไม่เท่ากัน

 

10 ปัจจัย กับประสิทธิภาพ “การใช้ประสาทหูเทียม”


1. ระยะเวลาที่สูญเสียการได้ยิน หากสูญเสียการได้ยินในช่วงสั้น มีแนวโน้มที่หลังผ่าตัดจะมีความสามารถทางการได้ยินดีกว่าผู้ที่สูญเสียการได้ยินเป็นเวลานาน

2. อายุที่เริ่มสูญเสียการได้ยิน เด็กหรือผู้ใหญ่ที่สูญเสียการได้ยินภายหลังมีภาษาแล้ว มีแนวโน้มที่หลังผ่าตัดจะมีความสามารถทางการได้ยินดีกว่าผู้สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด ที่ได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมช้ากว่าเวลาอันควร

3. อายุที่ทำการผ่าตัด สำหรับผู้ที่หูหนวกก่อนมีภาษา หากได้รับการผ่าตัดเมื่ออายุน้อยจะมีความสามารถทางการได้ยินดีกว่าผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเมื่ออายุมาก

4. ระยะเวลาที่ใช้ประสาทหูเทียม ประสบการณ์ในการใช้อุปกรณ์ประสาทหูเทียมจะช่วยเพิ่มทักษะในการรับรู้เสียงพูด

5. ลักษณะโครงสร้างของหูชั้นใน หากมีความผิดปกติของโครงสร้าง เช่น มีเพียงครึ่งรอบ หรือมีหินปูนอยู่ภายในทำให้ไม่สามารถใส่ขดลวดเข้าไปในหูชั้นในได้อย่างสมบูรณ์

6. ระดับการได้ยินที่เหลืออยู่ ผู้ที่มีการได้ยินเหลืออยู่ มีแนวโน้มที่หลังผ่าตัดจะรับรู้คำพูดได้ดีกว่าผู้ที่ไม่เหลือการได้ยินเลย

7. ความพิการซ้ำซ้อน หากมีความผิดปกติเกี่ยวกับสติปัญญา สมอง หรือจิตใจ จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้การฟังและการพูด

8. สภาพแวดล้อมทางการศึกษา เด็กควรได้รับการส่งเสริมให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการใช้การได้ยินและการพูด

9. จำนวนช่องสัญญาณที่สามารถใช้ได้ เพื่อการรับรู้คำพูดควรมีอย่างน้อย 5 – 8 ช่องสัญญาณ

10. จำนวนของเม็ดอิเล็กโทรดประสาทหูเทียม ที่ใส่เข้าไปภายในหูชั้นใน (อวัยวะก้นหอย) หากมีจำนวนเม็ดอิเล็กโทรดมาก ยิ่งทำให้เกิดการกระตุ้นมาก

 

 

การเลือกยี่ห้อประสาทหูเทียมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งานประสาทหูเทียมให้กับผู้ผ่าตัดได้ดียิ่งขึ้น

 

 

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสาทหูเทียม ได้ที่

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

ประสาทหูเทียม (สำหรับเด็ก)

 

ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม

กรณีเด็ก มีหลักเกณฑ์เบื้องต้น ดังนี้


  • หูหนวก ทั้ง 2 ข้าง (สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับ 80 เดซิเบลขึ้นไป – ABR, ASSR ระดับ 90 เดซิเบลขึ้นไป)
  • อายุแรกเกิด ถึง 4 ปี ที่ไม่รับรู้เสียงพูด และไม่มีพัฒนาการด้านทักษะการฟัง การพูด และภาษา (สำหรับมูลนิธิ เด็กต้องอายุไม่เกิน 3 ขวบ)
  • อายุมากกว่า 5 ปี แต่ยังจำแนกคำพูดได้น้อยกว่า 50% ไม่ได้ประโยชน์จากการใส่เครื่องช่วยฟัง
  • ผู้ปกครองต้องทุ่มเท เอาใจใส่ และส่งเสริมการมีพัฒนาการทางด้านทักษะการฟัง และการพูดของเด็กเป็นอย่างดี

หมายเหตุ : อายุ ไม่ได้ระบุแน่ชัด ขึ้นอยู่กับการประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัดของทีมแพทย์ และการประเมินความพร้อมของครอบครัวในการฟื้นฟูภายหลังการผ่าตัด

          สำหรับความคาดหวังของการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กนั้น ผู้ปกครองจะเป็นผู้คาดหวังในการผ่าตัดเสียส่วนใหญ่ว่า หลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วเด็กจะต้องได้ยินและมีพัฒนาการตามช่วงวัยเหมือนเด็กปกติทั่วไป ซึ่งความเป็นจริงแล้ว สำหรับเด็กที่มีการสูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด การรับรู้และพัฒนาการของเด็กจะช้ากว่าเด็กปกติ

    และเมื่อเข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม พัฒนาการของเด็กจะพัฒนาได้ช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของผู้ปกครองและความพร้อมของตัวเด็กเอง

 

 

          ดังนั้นหลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียม ผู้ปกครองจำเป็นต้องให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ให้ความสำคัญกับการฝึกฟัง ฝึกพูด เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กเติบโตอย่างสมวัย (กรณีเด็กที่ทำการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้วไม่ได้รับการฝึกฟัง ฝึกพูด อาจทำให้เด็กเลือกใช้ภาษามือ และท่าทางแทนการสื่อสารด้วยภาษาพูด)

 

การสูญเสียการได้ยินเป็นเวลานาน ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กได้ และควรได้รับการฟื้นฟู ไม่เกิน 6 เดือน

 

สอบถามข้อมูลเทคโนโลยีประสาทหูเทียมเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
คุยเฟสบุ๊ค: m.me/hearingchiangmai
คุยไลน์: line.me/ti/p/%40hearingchiangmai

ประสาทหูเทียม กับความคาดหวังของผู้ผ่าตัด

 

ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม กรณีผู้ใหญ่

มี 4 หลักเกณฑ์เบื้องต้น ดังนี้


  1. หูหนวกทั้ง 2 ข้าง (สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับ 80 เดซิเบลขึ้นไป – ABR, ASSR ระดับ 90 เดซิเบลขึ้นไป)
  2. ไม่ได้รับประโยชน์จากการใส่เครื่องช่วยฟัง / หูดับเฉียบพลัน / ติดเชื้อไวรัส / เสื่อมตามวัย
  3. สุขภาพแข็งแรง ไม่มีอุปสรรค หรือข้อห้ามในการเข้ารับการผ่าตัด
  4. มีความต้องการสื่อสารด้วยภาษาพูด (พูดคุยกับคนรอบข้าง ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ)

หมายเหตุ:  อายุไม่ได้ระบุแน่ชัด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสภาพร่างกายแต่ละบุคคล

 

       ผู้เข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม ย่อมคาดหวังผลจากการผ่าตัดว่า หลังจากการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมจะต้องได้ยินชัดเจนเหมือนคนปกติ 100%  ซึ่งความเป็นจริงแล้วผู้ผ่าตัดประสาทหูเทียมจะได้ยินเหมือนคนปกติได้นั้นต้องใช้เวลาในการปรับตัว โดยตัวผู้ผ่าตัดเองต้องมีการฝึกฟัง ฝึกพูด สร้างความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ประสาทหูเทียมเสียก่อน

 

          การฟังและการพูดให้ได้เหมือนคนปกติทั่วไปขึ้นอยู่กับชั่วโมงการฝึกฟัง ฝึกพูด และความใส่ใจของผู้ผ่าตัด รวมถึงความร่วมมือของญาติผู้ผ่าตัดในการดูแลและคอยสนับสนุนให้กำลังใจผู้ผ่าตัด

 

 

           สำหรับผู้ใหญ่ที่มีภาษาพูดมาก่อนแล้วเกิดการสูญเสียการได้ยินในภายหลัง และได้เข้ารับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมโดยเร็ว จะช่วยให้ผู้ผ่าตัดฟื้นภาษาที่หายไปได้เร็วขึ้น การฟังและการพูดให้ได้เหมือนคนปกติจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

“ประสาทหูเทียมจะอยู่กับท่านไปตลอดชีวิต”

ท่านควรตระหนักถึงความสำคัญของการใส่เครื่อง การฝึกฟัง และการฝึกพูด
เพราะยังมีผู้สูญเสียการได้ยินอีกมากที่อยากได้รับโอกาสการได้ยินแบบท่าน

 

 

สอบถามข้อมูลเทคโนโลยีประสาทหูเทียมเพิ่มเติม ได้ที่

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
โทร: 053-271533, 089-0537111
Facebook : m.me/hearingchiangmai
Line : line.me/ti/p/%40hearingchiangmai