ความดันโลหิตสูง ภัยเงียบของการได้ยินลดลง

ความดันโลหิตสูง ภัยเงียบของการได้ยินลดลง

       ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ด้วยจำนวนประชากรผู้สูงอายุ 13,994,045 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 21.58 ของประชากรทั้งหมด 64,854,432 คน ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุชี้ให้เห็นความท้าทายที่เราเผชิญทั้งปัญหาทางกายภาพอย่างการพลัดตกหกล้มที่มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยปัญหาสุขภาพจิตอย่างภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในผู้สูงอายุที่พบมากที่สุดคือ โรคความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ โภชนาการและเมตะบอลิกอื่นๆ โรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามอายุ (สืบค้นข้อมูล ณ วันที่ 30 ต.ค. 2568)

หนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียการได้ยิน นั่นคือ โรคความดันโลหิตสูง

ตรวจการได้ยิน

คุณจำได้ไหมว่า…

ครั้งสุดท้ายที่คุณตรวจวัดความดันโลหิตคือเมื่อไหร่?

และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ครั้งสุดท้ายที่คุณตรวจวัดการได้ยินคือเมื่อไหร่?

       โดยทั่วไปการสูญเสียการได้ยินจะเริ่มเมื่ออายุประมาณ 30 ปี และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี เนื่องจากมักเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าคุณมีภาวะสูญเสียการได้ยินเมื่อใด วิธีที่ดีที่สุดที่จะทราบได้อย่างแน่ชัดคือ การตรวจการได้ยิน และแน่นอนว่าคุณตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีค่าความดันอาจบอกอะไรกับคุณ

       งานวิจัยพบว่า ผลการประเมินการได้ยินมีความสัมพันธ์อย่างมากกับโรคหลอดเลือดแดง และยังใช้เป็นการทดสอบสุขภาพหัวใจสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง

ความดันโลหิตสูง การได้ยิน

ความดันโลหิตสูง คืออะไร?

       ความดันโลหิต คือ แรงดันของเลือดที่หัวใจใช้ในการสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ความดันโลหิตวัดได้ 2 ค่า ได้แก่

       ความดันโลหิตค่าบน คือ แรงดันโลหิตขณะที่หัวใจบีบตัวเต็มที่
       ความดันโลหิตค่าล่าง คือ แรงดันโลหิตขณะที่หัวใจคลายตัวเต็มที่

      ความดันโลหิตสูง (Hypertension) คือ ภาวะแรงดันเลือดที่กระทำต่อผนังหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง ในระดับมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 mmHg ซึ่งอาจไม่แสดงอาการแต่จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ไตวาย เป็นต้น

ความเชื่อมโยงของ ความดันโลหิตสูง และภาวะการสูญเสียการได้ยิน

       American Heart Association (AHA) ระบุว่า ความดันโลหิตสูง (130/80 mmHg) ที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถส่งผลโดยตรงต่อการได้ยินและเร่งให้เกิดความเสื่อมตามวัย โดยความดันโลหิตสูงทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดในหูทำให้การไหลเวียนของเลือดบกพร่อง หูชั้นในมีความไวต่อการไหลเวียนของเลือดมาก การเสียหายของหลอดเลือดและคราบไขมันที่สะสมจะทำลายเซลล์ขนซึ่งมีหน้าที่รับเสียง และหากปล่อยให้เรื้อรังอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำลายเซลล์ขน ได้แก่ ยาบางชนิด การได้รับเสียงดังเกินไป อายุที่มากขึ้น และการติดเชื้อ

       AHA ยังชี้อีกว่า การสูญเสียการได้ยินจากประสาทรับเสียงฉับพลัน อาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าของโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด

ควบคุมความดันโลหิต ป้องกันการสูญเสียการได้ยิน

       ความดันโลหิตสูง สามารถเร่งให้เกิดการสูญเสียการได้ยิน การตรวจการได้ยินจึงอาจช่วยชีวิตคุณได้อย่างแท้จริง นักวิจัยพบว่า การควบคุมความดันโลหิตสามารถป้องกันการสูญเสียการได้ยินเพิ่มเติมได้ แม้ว่าการใช้ยาจะสามารถควบคุมความดันโลหิตได้ แต่การเปลี่ยนแปลงโภชนาการและวิถีชีวิตง่ายๆ ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับการได้ยินและสุขภาพโดยรวมได้ด้วย 4 วิธีการ ดังนี้

1. รักษาน้ำหนักในเกณฑ์สุขภาพดี : น้ำหนักตัวที่เหมาะสมช่วยลดภาระต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต

       ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) : BMI ที่เหมาะสมควรอยู่ในช่วงประมาณ 23 – 27 kg/m² หากค่าต่ำกว่า 21 อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร กล้ามเนื้อหาย และฟื้นตัวช้าหากเจ็บป่วย และหากมากกว่า 30 kg/m² อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือข้อเข่าเสื่อมได้

BMI ของคุณ มีค่าอยู่ที่เท่าไหร่?

หาค่า BMI และค่า IBW เพื่อวางแผนมื้ออาหารและปรับเปลี่ยนโปรแกรมการใช้ชีวิตของคุณให้เหมาะสม

ลดน้ำหนักตัว

2. จัดการโภชนาการอย่างชาญฉลาด : รับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยเฉพาะโปรตีน (1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) เช่น ไข่ ปลา เต้าหู้ ถั่ว และนม ซึ่งช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ลดการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ เน้นอาหารที่มีธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ลดการบริโภคโซเดียม หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป (Processed Foods) จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

       สำหรับผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักน้อย : ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อเพิ่มอาหารตามอัตราส่วนที่เหมาะสม หรือแบ่งมื้ออาหาร 5 – 6 มื้อเล็กๆ ต่อวัน เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน

DASH Diet อาหารคุมความดันโลหิตสูง
DASH Diet คือ แผนการรับประทานอาหารที่เน้นการควบคุมความดันโลหิตสูงและส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

3. ลงทุนกับการออกกำลังกาย : ออกกำลังกายวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน เช่น การเดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน รวมไปถึงการจัดการความเครียด เช่น การฝึกโยคะ ไทชิ การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดแรงดันในหลอดเลือด หรือการหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียดก็จะช่วยทำให้การควบคุมความดันโลหิตดีขึ้นได้

4. หมั่นตรวจวัดและใส่ใจ : ตรวจวัดความดันโลหิตและตรวจการได้ยินเป็นประจำทุกปี ค่าความดันโลหิตที่สมดุลคือ สัญญาณของหลอดเลือดที่แข็งแรง

เพราะการได้ยินเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมโยงเราเข้ากับผู้คน สังคม และโลกกว้าง

      พลังของการได้ยิน ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ เชื่อมต่อกับสังคม และเข้าใจโลกมากขึ้น การควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงให้อยู่ในระดับปกติผ่านการรับประทานยา การปรับเปลี่ยนอาหาร และการออกกำลังกาย จึงเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงหรือชะลอการสูญเสียการได้ยินที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดได้

อย่าละเลยค่าความดันโลหิตของคุณ และอย่าละเลยการตรวจการได้ยินเป็นประจำทุกปี หากพบการสูญเสียการได้ยิน การใส่เครื่องช่วยฟังอย่างทันท่วงทีจะช่วยรักษาคุณภาพชีวิตของคุณ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมสนับสนุนการได้ยิน

ขอขอบคุณข้อมูล : กรมกิจการผู้สูงอายุ www.dop.go.th, DASH Diet – www.nhlbi.nih.gov, www.campaignforbetterhearing.us
logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ทดสอบการได้ยิน

ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เวลาทำการ :  จ. – ศ. เวลา 8.30 –  16.30 น.
และ ส. เวลา 8.00 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Call Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai Line Intimex Chiangmai

รู้จัก เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่ เครื่องช่วยฟังทัดหลังใบหู

รู้จัก เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่

ขนาดใหญ่ไม่ใช่อุปสรรค และไม่ได้น่ากลัวแบบที่คิด

การได้ยิน… ไม่ใช่เรื่องของวัย แต่เป็นเรื่องของ คุณภาพชีวิต

       การสูญเสียการได้ยินไม่ได้เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถสะสมมาจากการทำงานและการใช้ชีวิตในวัยหนุ่มสาว การละเลยปัญหานี้เท่ากับการปิดกั้นตัวเองออกจากโลกแห่งการสื่อสารและความสัมพันธ์ เราจึงไม่จำเป็นต้องรอจนเข้าสู่วัยสูงอายุเพื่อเริ่มดูแลตัวเอง การตรวจการได้ยินสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วัยทำงานเพื่อให้สามารถวินิจฉัยและจัดการปัญหาได้อย่างทันท่วงที

       การพิจารณาใช้เครื่องช่วยฟังตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตเชิงรุก เพื่อรักษาความสามารถในการสื่อสารและคงไว้ซึ่งปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่ miniRITE

เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่

เทอะทะ และล้าสมัย จริงหรือ?

       หลายคนอาจมีภาพจำว่า เครื่องช่วยฟัง เป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ ดูเทอะทะ ล้าสมัย หรือเป็นอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว เครื่องช่วยฟังคือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับบุคคลที่มีภาวะสูญเสียการได้ยิน (Hearing Loss) ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับหูหนวก และช่วยฟื้นคืนคุณภาพชีวิตให้กับคนทุกช่วงวัยที่ประสบปัญหาการได้ยิน

เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่ คือ โอกาส และ ความมั่นใจ

ทดลอง เครื่องช่วยฟัง ผู้ชาย

       หนึ่งในความกังวลหลักของหลายคนคือภาพของ เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่ ที่ดูไม่ทันสมัย แต่หากคุณได้สัมผัสเครื่องช่วยฟังที่จำหน่ายในศูนย์เฉพาะทาง คุณจะพบว่าขนาดที่คุณเคยกังวลนั้น อาจไม่ได้ใหญ่เทอะทะอย่างที่คิด และที่สำคัญคือ เครื่องช่วยฟังสมัยใหม่มาพร้อมกับ “ฟังก์ชัน” และ “ความสะดวก” ที่จะเปลี่ยนมุมมองของคุณไปตลอดกาล

      พิจารณาข้อดีของ เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่ หรือเครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังใบหูที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการสูญเสียการได้ยินระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับหูหนวก เพื่อใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันของคุณ

Receiver in the ear (RITE)

สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงระดับหูหนวก หรืออยู่ในเกณฑ์ระดับ 26 - 91 เดซิเบลเป็นต้นไป (Mild to Profound Hearing Loss)

Behind The Ear (BTE)

สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงระดับรุนแรง หรืออยู่ในเกณฑ์ระดับ 26 - 90 เดซิเบล (Mild to Severe Hearing Loss)

Hihg Power / Ultra Power

สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรงถึงระดับหูหนวก หรืออยู่ในเกณฑ์ระดับ 71 - 91 เดซิเบลเป็นต้นไป (Severe to Profound Hearing Loss)
ศูนย์จำหน่ายเครื่องช่วยฟัง ผู้เชี่ยวชาญเครื่องช่วยฟัง

1. ความคล่องแคล่วในการใช้งาน : ขนาดที่พอเหมาะช่วยให้ผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้สูงอายุ สามารถหยิบจับ ใส่แบตเตอรี่ และจัดการกับอุปกรณ์ได้ง่ายดายและแม่นยำยิ่งขึ้น

2. ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าเครื่องขนาดเล็ก รองรับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ติดขัด ทำให้คุณทำงาน ประชุม หรือเดินทางได้เต็มวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างวัน

3. การควบคุมที่สะดวก : ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง หรือปุ่มเปลี่ยนโปรแกรมมีขนาดที่สะดวกต่อการกดและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมได้อย่างง่ายดายและทันท่วงที เทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน

4. ความทนทานและการบำรุงรักษา : โครงสร้างที่มีขนาดเหมาะสมเอื้อต่อการทำความสะอาด ทำให้การดูแลรักษาเครื่องเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก นำไปสู่การยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

ก้าวข้ามความกลัว เพื่อเสียงที่ชัดเจนกับ เครื่องช่วยฟัง ขนาดใหญ่

      ความกังวลต่อเครื่องช่วยฟังขนาดใหญ่ มักเกิดจากภาพลักษณ์ที่พบเห็นทั่วไป ซึ่งอาจเป็นเทคโนโลยีในอดีตหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่สำหรับเครื่องช่วยฟังที่จำหน่ายในศูนย์เครื่องช่วยฟังนั้น ขนาดและรูปแบบได้รับการออกแบบตามหลักวิศวกรรมการแพทย์และข้อกำหนดทางเทคนิคเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อย่าปล่อยให้ความกลัวต่อเครื่องช่วยฟังขนาดใหญ่มาเป็นอุปสรรคขวางกั้นคุณจากการได้ยินและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เครื่องช่วยฟังเป็นเครื่องมือแห่งการเชื่อมต่อที่ช่วยให้คุณยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา การประชุม และช่วงเวลาอันมีค่ากับครอบครัวของคุณ

ทดลอง เครื่องช่วยฟัง ผู้หญิง BTE
เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังใบหู BTE

       เริ่มต้นอย่างมีคุณภาพ ทลายกำแพงความกังวลเรื่องเครื่องช่วยฟังขนาดใหญ่จะสำเร็จได้ด้วยการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและประสบการณ์ตรง สำหรับผู้มีปัญหาการได้ยินเริ่มต้นกระบวนการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ โดยเริ่มจากการ ตรวจการได้ยิน (Audiometry) และเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองฟังเสียงและสวมใส่จริง ณ ศูนย์จำหน่ายเครื่องช่วยฟังที่ได้มาตรฐาน

       การได้สัมผัสและทดลองใช้งานอุปกรณ์ด้วยตนเองจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และยืนยันว่าเครื่องช่วยฟังขนาดใหญ่คือทางออกที่มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดในการคืนความสามารถในการสื่อสารและการเข้าร่วมสังคมได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

ทดลองฟังเสียงและสวมใส่เครื่องช่วยฟังจริง ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟังจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับขนาด ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการใช้งานของอุปกรณ์

ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมสนับสนุนการได้ยิน

logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ทดสอบการได้ยิน

ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เวลาทำการ :  จ. – ศ. เวลา 8.30 –  16.30 น.
และ ส. เวลา 8.00 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Call Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai Line Intimex Chiangmai

หูไม่ได้ยิน ความสุขและคุณภาพชีวิตลดลง ปรับปรุงด้วยเครื่องช่วยฟัง

หูไม่ได้ยิน

ความสุขและคุณภาพชีวิตลดลง

ปรับปรุงได้ด้วยเครื่องช่วยฟัง

ไม่มีเหตุผลใดในการลด ความสุข และ คุณภาพชีวิต ของตัวคุณเองลง

เพียงเพราะ…หูไม่ได้ยิน

เครื่องช่วยฟัง คือ อุปกรณ์ช่วยเหลือการได้ยินที่มีประสิทธิภาพที่สุด
องค์การอนามัยโลกให้การยอมรับว่าช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บกพร่องการได้ยินได้จริง

ปฏิเสธ เครื่องช่วยฟัง

เท่ากับ ลดความสุข ลดคุณภาพชีวิต

       ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่คุณเลือกปฏิเสธเครื่องช่วยฟัง และเลือกที่จะอดทนกับความเครียดในการได้ยินไม่ชัด อดทนกับความเหนื่อยล้าในการฟังหรือการคาดเดาบทสนทนา หรือแม้แต่การขอให้ผู้อื่นพูดเสียงดังๆ บ่อยครั้ง ในระยะยาวอาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณเอง ความเครียดและความเหนื่อยล้าที่ถูกสะสมไว้ไม่ได้รับการแก้ไข นานวันอาจทำร้ายสุขภาพของคุณ สมองของคุณ และความสุขของคุณอาจหายไป จนต้องถอนตัวออกจากสังคม ไม่อยากพบปะผู้คน เพิ่มความเสี่ยงภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อมได้ในที่สุด

หากนี่คือ…

เหตุผลในการปฏิเสธการรักษาการได้ยินด้วย เครื่องช่วยฟัง ของคุณ

√ ไม่เป็นไร อายุเยอะมากแล้ว
√ ไม่เป็นไร อยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปที่ไหน
√ ไม่เป็นไร พูดเสียงดัง หรือขอให้ผู้อื่นพูดเสียงดัง
√ ไม่อยากใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะกลัวผู้อื่นตีตรา
√ ไม่อยากใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะเกะกะ
√ ไม่อยากใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะไม่คุ้นชิน

เหตุผลในการปฏิเสธเครื่องช่วยฟังของคุณ…

กำลังลดความสุข และคุณภาพชีวิตของคุณลง อยู่หรือไม่?

การได้ยินดี ลดภาวะพึ่งพิง

       การปฏิเสธเครื่องช่วยฟังของคุณ อาจเพิ่มภาระการทำงานสมองและคนรอบข้างได้โดยไม่รู้ตัว ภาวะพึ่งพิงอาจมาเร็วก่อนกำหนด เมื่อความมั่นใจและความปลอดภัยลดลง ความเสี่ยงอุบัติเหตุและปัญหาด้านสุขภาพในระยะยาวมักจะตามมา เครื่องช่วยฟังไม่เพียงช่วยปรับปรุงการได้ยิน ยังช่วยเชื่อมโยงการสื่อสาร บอกความต้องการของคุณให้กับคนที่คุณรัก นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและปลอดภัย ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การหกล้ม การเดินชนสิ่งของจนได้รับบาดเจ็บ และช่วยลดการพึ่งพิง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหากได้รับบาดเจ็บแล้ว การฟื้นฟูร่างกายจะต้องใช้เวลานานมากกว่าวัยหนุ่มสาว

ความต้องการของคุณจะไม่ถูกละเลย…

ใส่เครื่องช่วยฟัง เพื่อสร้างบทสนทนาและความสุขเล็กๆ รอบตัวคุณ

การได้ยินดี ยกระดับคุณภาพชีวิต ได้อย่างไร?

       สุขภาพการได้ยินดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่หากคุณบกพร่องทางการได้ยิน หรือ หูไม่ได้ยิน ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ เครื่องช่วยฟังจึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน อุปกรณ์ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการได้ยินเพื่อให้คุณมีการได้ยินที่ดีขึ้นและยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณให้ดีขึ้นตามลำดับ การได้ยินดีจึงเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ต่อไปนี้คือ ข้อดีของการได้ยินดี…

การได้ยินดี ความสัมพันธ์ดี

การได้ยินดี = ความสัมพันธ์ดี

       เมื่อการสื่อสารเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ สุขภาพการได้ยินที่ดีช่วยขจัดความเข้าใจผิดและความหงุดหงิดจากการพลาดบทสนทนา ลดความโดดเดี่ยวทางสังคม สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

การได้ยินดี = สมองดี

       งานวิจัยชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการสูญเสียการได้ยินและภาวะสมองเสื่อม การดูแลการได้ยินจึงเป็นการกระตุ้นสมองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยให้สมองของคุณมีพลังและเฉียบคมอยู่เสมอ การรักษาสุขภาพการได้ยินเป็นการลงทุนที่ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพสมองในระยะยาว และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพ

การได้ยินดี อิสระ ปลอดภัย

การได้ยินดี = ชีวิตที่อิสระและปลอดภัย

       การได้ยินดีมอบความเป็นอิสระและความปลอดภัยในทุกสถานการณ์ คุณสามารถรับรู้และตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเสียงกริ่งประตูจากผู้มาเยี่ยมเยือน เสียงโทรศัพท์จากคนที่รัก หรือเสียงสัญญาณเตือนที่สำคัญ รู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องอยู่คนเดียว นี่คือพลังที่ช่วยให้คุณรู้สึกมั่นคงและควบคุมชีวิตได้อย่างสมบูรณ์

การได้ยินดี = ความมั่นใจเต็มเปี่ยม

       เมื่อคุณสามารถสื่อสารและมีส่วนร่วมในวงสังคมได้อย่างชัดเจน ความมั่นใจของคุณก็จะกลับมา การได้ยินที่ดีคือเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนให้คุณกล้าแสดงออก มีปฏิสัมพันธ์ และคว้าทุกโอกาสทางสังคมได้อย่างเต็มที่

สุขภาพ การได้ยินดี ความสัมพันธ์ดี

การได้ยินดี = ชีวิตที่ประหยัดและยั่งยืน

       การรักษาสุขภาพการได้ยิน คือ การตัดสินใจทางการเงินที่ชาญฉลาด เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะมันเชื่อมโยงกับสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุหกล้มในผู้สูงอายุ และช่วยให้คุณพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน จึงเป็นการประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายในการดูแลในระยะยาว

การได้ยินดี = สุขภาพจิตดี

       การรักษาภาวะสูญเสียการได้ยิน คือ การมอบความสงบให้แก่จิตใจ ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อคุณสามารถสื่อสารได้อย่างง่ายดาย สุขภาวะทางอารมณ์และความพึงพอใจในชีวิตโดยรวมของคุณก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้ทุกวันเต็มไปด้วยความสุข

       การดูแลสุขภาพการได้ยิน ไม่ใช่แค่การป้องกันความเสี่ยงภาวะต่างๆ ของสมองและร่างกาย แต่คือการลงทุนในคุณภาพชีวิตที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง สุขภาพที่แข็งแกร่ง และอิสรภาพที่ยั่งยืน การได้ยินดีจึงนำมาซึ่งความสุขทุกมิติของชีวิต

เลือกเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมกับระดับการสูญเสียการได้ยิน รองรับไลฟ์สไตล์ของคุณ พร้อมบริการหลังการขายดูแลตลอดการใช้งาน

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมสนับสนุนการได้ยิน

logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

 

ทดสอบการได้ยิน
ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เวลาทำการ :  จ. – ศ. เวลา 8.30 –  16.30 น.
และ ส. เวลา 8.00 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Tel Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai  Line Official Intimex Chiangmai

ลดความชื้น ลดความเสี่ยง เครื่องช่วยฟัง ติดๆ ดับๆ

ลดความชื้น ลดความเสี่ยง

เครื่องช่วยฟัง ติดๆ ดับๆ

       ความชื้น มีอยู่รอบตัวและมีอยู่ทุกพื้นที่ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องทำงาน หรือห้องรับแขก สภาพอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน อากาศที่ร้อนอบอ้าวสลับเย็นในช่วงฝนตก การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและอุณหภูมิล้วนมีผลต่อความชื้นภายในบ้าน

ความชื้นภายในบ้าน

ความชื้นที่เหมาะสมภายในบ้าน ควรอยู่ในระดับ 40 – 60% ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกสบายตัว และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

     ความชื้นภายในบ้านที่ต่ำมาก ผิวหนังจะรู้สึกแห้ง คัน ริมฝีปากแห้ง ตาแห้ง เจ็บคอ และอาจส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจแย่ลง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตบ่อยครั้ง และหากความชื้นภายในบ้านสูง ร่างกายจะรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ออก เหงื่อออกมาก ความชื้นที่สูงยังก่อให้เกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็นอับ ไม่เพียงเท่านี้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็อาจมีความเสี่ยงเกิดการควบแน่นภายใน ทำให้แผงวงจรเกิดสนิมและคราบออกไซด์ กัดกร่อนอุปกรณ์เกิดการเสียหายและชำรุด

       ความชื้นภายในบ้าน ไม่เพียงส่งผลต่ออุปกรณ์เครื่องช่วยฟัง แต่ยังสามารถส่งผลต่อสุขภาพของตัวคุณเอง การเก็บอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ โดยไม่ใช้สารดูดความชื้นอาจไม่เพียงพอในการดูแลรักษาเครื่องช่วยฟังให้อยู่กับคุณไปนานๆ เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นภายในบ้านมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา การควบคุมความชื้นจึงเป็นเรื่องยาก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการสะสมความชื้นภายในเครื่องช่วยฟังที่คุณรัก

       ต่อไปนี้คือ คำแนะนำการลดความชื้นให้กับเครื่องช่วยฟังระหว่างการใช้งาน และหลังจากเลิกใช้งาน วิธีการที่จะช่วยลดความเสี่ยงเครื่องช่วยฟังชำรุด

คำแนะนำการลดความชื้นให้กับเครื่องช่วยฟัง

ระหว่างการใช้งาน และ หลังจากเลิกใช้งาน

ลดความชื้น ระหว่างการใช้งานเครื่องช่วย

ผู้หญิง ปลูกดอกไม้ กำลังซับเหงื่อ

• สถานการณ์ สัมผัสเหงื่อ :

       กิจวัตรประจำวัน เช่น ออกกำลังกาย ทำงานบ้าน ทำอาหาร หรือทำสวน ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ของคุณ อาจทำให้มีเหงื่อไหล ลดความเสี่ยงเครื่องช่วยฟังสัมผัสกับเหงื่อ ด้วยการหมั่นใช้ผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชู่ซับเหงื่อให้กับตัวเอง และถอดเครื่องช่วยฟังออกมาเช็ดด้วยผ้าแห้งหรือกระดาษทิชชู่เป็นระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อไหลซึมเข้าสู่ตัวเครื่องช่วยฟัง

       ใช้อุปกรณ์เสริมเข้ามาช่วยป้องกัน ลดการสัมผัสโดยตรงจากเหงื่อหรือน้ำ เช่น ถุงซับเหงื่อ ผ้าคาดศีรษะ หากคุณเป็นผู้ชื่นชอบออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง การใช้อุปกรณ์เสริมเข้ามาช่วยลดการสัมผัสของเหงื่อโดยตรง หรือช่วยชะลอการไหลของเหงื่อไม่ให้ไหลเข้าสู่เครื่องช่วยฟัง และถ้าหากคุณเป็นผู้มีเหงื่อเยอะ อุปกรณ์เสริมสำรองควรมีเปลี่ยนระหว่างวัน และควรหมั่นซับเหงื่อเป็นระยะ

• สถานการณ์เสี่ยงสัมผัสน้ำ หรือฝน :

       กิจกรรมเกี่ยวกับน้ำ เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า และแปรงฟัน ควรทำให้เสร็จก่อนที่คุณจะเริ่มต้นใช้งานเครื่องช่วยฟังในตอนเช้า หากคุณออกจากบ้านแล้วพบว่าฝนตก คุณอาจจะไม่ได้พกร่มติดตัวตลอดเวลา การถอดเครื่องช่วยฟังออกก่อนชั่วคราวและเก็บให้ปลอดภัยจากน้ำฝน คือวิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุด เมื่ออยู่ในที่ร่มหรือพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ก่อนนำเครื่องช่วยฟังกลับมาใส่อีกครั้ง คุณควรตรวจเช็กบริเวณศีรษะและใบหูที่ต้องสัมผัสกับเครื่องช่วยฟังว่าปลอดภัยจากหยดน้ำและผมของคุณไม่เปียกอยู่ ก่อนนำเครื่องช่วยฟังใส่กลับคืนยังหูของคุณ

       ข้อควรระวัง เมื่อเครื่องช่วยฟังโดนน้ำ ควรทำอย่างไร [เรียนรู้…เครื่องช่วยฟังโดนน้ำ]

ลดความชื้น หลังจากเลิกใช้งานเครื่องช่วยฟัง

เก็บเครื่องช่วยฟัง สารดูดความชื้น

• ใช้งาน สารดูดความชื้น

       ใช้สารดูดวามชื้นช่วยในการจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องช่วยฟัง กล่องสำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังและสารดูดความชื้นจะต้องมีฝาที่ปิดสนิท เพื่อประสิทธิภาพในการดูดความชื้นออกจากเครื่องช่วยฟัง และเพื่อป้องกันการดูดความชื้นจากภายนอกเข้ามา

เคล็ดลับ : ก่อน – หลังจากการหยิบเครื่องช่วยฟังออกมาใช้งาน จะต้องปิดฝาให้สนิททุกครั้ง เพื่อรักษาคุณภาพของสารดูดความชื้น ไม่ให้สารดูดความชื้น ดูดความชื้นจากภายในห้องเข้ามาในกล่องเก็บอุปกรณ์

เครื่องอบ ความชื้น เครื่องช่วยฟัง

• ใช้งาน เครื่องอบไล่ความชื้น ควบคู่กับก้อนดูดความชื้น

      การใช้งานเครื่องอบไล่ความชื้นควบคู่กับก้อนดูดความชื้น อุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความชื้น ด้วยการทำงานร่วมกันของพัดลมระบายอากาศที่พัดพาความชื้นไปยังก้อนดูดความชื้น ทำให้ลดความชื้นที่สะสมภายในเครื่องช่วยฟังได้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงแค่พลังลมที่พัดระบายความชื้น แต่ความชื้นยังถูกดูดและกักเก็บในก้อนดูดความชื้นได้อย่างสมบูรณ์

       เครื่องอบไล่ความชื้นมีหลากหลายรูปแบบการทำงาน เช่น ทำงานด้วยระบบมอเตอร์พัดลม ทำงานด้วยระบบความร้อน เป็นต้น

Warning

       นำแบตเตอรี่ออกจากรังถ่านทุกครั้ง เปิดฝารังถ่านทิ้งไว้ ก่อนจัดเก็บเครื่องช่วยฟังไว้ในกล่องบรรจุสารดูดความชื้น หรือเครื่องอบไล่ความชื้น

ความชื้น ระบายอากาศ

       ลดความชื้นภายในบ้าน หลีกเลี่ยงความชื้นที่ส่งผลต่อสุขภาพและเครื่องช่วยฟังของคุณได้ ดังนี้

       • เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ
       • ใช้งานเครื่องลดความชื้น       
       • ไม่นำต้นไม้ไว้ภายในตัวอาคาร
       • เปิดพัดลม ช่วยระบายอากาศ
       • เปิดพัดลมดูดอากาศ ห้องน้ำ เครื่องดูดควันห้องครัว
       • ใช้โหมดเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ

การลงทุนที่คุ้มค่า เริ่มต้นจากตัวคุณ

       เครื่องช่วยฟัง คือ การลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคุณ เมื่อลงทุนในเครื่องช่วยฟังแล้ว อย่าลืมใส่เครื่องเป็นประจำสม่ำเสมอ ดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เข้ารับบริการตามกำหนด เพื่อการใช้งานเครื่องช่วยฟังได้อย่างคุ้มค่า ทั้งหมดนี้เริ่มต้นได้จาก…ตัวคุณเอง

เลือกเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูงเหมาะสมกับระดับการได้ยิน รองรับไลฟ์สไตล์ของคุณ พร้อมบริการหลังการขายที่คุ้มค่า ดูแลสุขภาพการได้ยินตลอดการใช้งาน ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมสนับสนุนการได้ยิน

ขอขอบคุณข้อมูล : iaq.works, cleanairoptima.com
logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

 

ทดสอบการได้ยิน
ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เวลาทำการ :  จ. – ศ. เวลา 8.30 –  16.30 น.
และ ส. เวลา 8.00 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Tel Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai  Line Official Intimex Chiangmai

เสียงดังในหู เสียงวิ้งในหู หรือ ภาวะหูอื้อ (Tinnitus)

เสียงดังในหู

กำลังบอกอะไรกับคุณ…

เสียงดังในหู เสียงวิ้งในหู หรือ ภาวะหูอื้อ

(Tinnitus)

       เสียงดังในหู หรือ ภาวะหูอื้อ (Tinnitus) คือ อาการที่ได้ยินเสียงกริ๊ง เสียงวิ้ง เสียงหวือ เสียงหึ่ง หรือเสียงคลิก เสียงที่ดังขึ้นจากภายในหูหรือในหัว โดยไม่มีแหล่งกำเนิดเสียงจากภายนอก เสียงอาจเบาหรือดัง เกิดขึ้นได้กับหูทั้งสองข้างหรือข้างเดียว

       อาการนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สำหรับอีกหลายๆ คน มันสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างมหาศาล ในช่วงแรกอาจมาๆ หายๆ แต่หากอาการยังคงอยู่เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน อาจกลายเป็นภาวะเรื้อรังที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างคาดไม่ถึง ตั้งแต่การนอนหลับที่ไม่สนิท สมาธิที่สั้นลง ไปจนถึงความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า

Brain

เสียงดังในหู บอกอะไร…

       เมื่อมีอาการเสียงดังในหูอย่างต่อเนื่องนานกว่า 3 เดือน นั่นอาจไม่ใช่แค่ความรำคาญธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่า ระบบการได้ยินอาจกำลังมีปัญหา ซึ่งต้นตอของปัญหาอาจอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของหู เส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างหูชั้นในกับสมอง หรือแม้แต่สมองส่วนที่ทำหน้าที่รับเสียงเอง

       สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะนี้ คือ การสูญเสียการได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียการได้ยินตามอายุ (Presbycusis) หรือ การสูญเสียการได้ยินจากเสียงดัง (NIHL) แต่มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น นักวิจัยเชื่อว่า เสียงดังในหู เป็นเหมือนการที่สมองพยายาม “เติมเต็ม” ช่องว่างของเสียงที่หายไป เมื่อสมองขาดสิ่งกระตุ้นทางการได้ยิน มันจึงสร้างเสียงขึ้นมาเอง เพื่อชดเชยความถี่ที่ขาดหายไปนั้น

        อย่างไรก็ตาม อาการเสียงดังในหูไม่ได้มาจากแค่การสูญเสียการได้ยินเพียงอย่างเดียว มันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทำให้การวินิจฉัยสาเหตุที่แท้เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก

สาเหตุ เสียงดังในหู หรือ ภาวะหูอื้อ

       สิ่งที่ทุกคนควรตระหนัก คือ โรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆ การประเมินอาการอย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะบางครั้งอาการนี้อาจเป็นสัญญาณแรกของปัญหาสุขภาพ นอกจากโรคประจำตัวเรื้อรังแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อภาวะนี้ด้วยเช่นกัน

Body scan

• โรคหัวใจและหลอดเลือด : หากเสียงในหูของคุณเป็นแบบมีจังหวะตามการเต้นของหัวใจ (Pulsatile Tinnitus) นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดที่ต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียด

• ความดันโลหิตสูง : ปัจจัยนี้สามารถทำให้ เสียงดังในหู ชัดเจนขึ้น เนื่องจากมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดในหูและบริเวณใกล้เคียง

• โรคเบาหวาน : ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเวลานานอาจทำลายเส้นประสาทในระบบการได้ยินและส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตในหูชั้นใน ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินและภาวะเสียงดังในหูในที่สุด

• ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติ : ฮอร์โมนไทรอยด์มีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญของระบบการได้ยิน การรักษาภาวะไทรอยด์ที่เป็นต้นเหตุจึงช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• โรคภูมิต้านทานตนเอง : โรคบางชนิด เช่น โรคลูปัส หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อหูชั้นในและเส้นประสาทการได้ยิน ทำให้สมองสร้างเสียงภายในขึ้นมาเองเพื่อชดเชย

• หวัดและปัญหาไซนัส : อาการคัดจมูกจากหวัดรุนแรงหรือการติดเชื้อไซนัส อาจทำให้เกิดแรงดันผิดปกติในหูชั้นกลาง ส่งผลต่อการได้ยินและนำไปสู่อาการ เสียงดังในหู

• พยาธิสภาพของหูชั้นใน : เช่น โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือโรคเมเนียร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ สูญเสียการได้ยิน และเสียงดังในหูร่วมด้วย

• การติดเชื้อในหู : การติดเชื้ออาจทำให้เกิดการอุดตัน เช่น การสะสมของขี้หู ซึ่งอาจนำไปสู่อาการเสียงดังในหู

• ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร (TMJ) : ปัญหาที่ข้อต่อนี้อาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทในบริเวณหูชั้นใน ทำให้เกิดอาการเสียงดังในหูร่วมกับอาการปวดขากรรไกรได้

• การบาดเจ็บ : ทั้งการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอ หรือการบาดเจ็บจากแรงดัน เช่น การดำน้ำลึกหรือกระโดดร่ม

• การใช้ยาบางชนิด : ยาบางประเภทอาจเป็นพิษต่อหู (Ototoxic drugs) ทำให้เกิดความเสียหายต่อหูชั้นในได้

• ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ : ความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้อาการเสียงดังในหูแย่ลงได้ นอกจากนี้การศึกษาบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าอาหารบางชนิด เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก และไขมันที่สูง อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะนี้ ในขณะที่วิตามินบี 12 อาจช่วยลดความเสี่ยงได้

      ¹งานวิจัยจากสถาบันโสตวิทยาชั้นนำแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยโรคหูอื้อจำนวนมากมากถึง 90% มักมีภาวะสูญเสียการได้ยินในระดับหนึ่ง บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยโรคหูอื้อมักไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังสูญเสียการได้ยิน

       เสียงดังในหู หรือภาวะหูอื้อ อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณแรกๆ ที่บ่งบอกว่าความเครียดในชีวิตกำลังส่งผลกระทบต่อชีวิต งานวิจัยนี้ได้ศึกษาผู้ใหญ่ที่มีอาการเสียงดังในหู พบว่า ส่วนใหญ่มีอาการนอนไม่หลับอย่างรุนแรง ปวดเมื่อยตามร่างกาย และมีความเครียดปานกลางถึงสูง หลายคนยังรายงานว่ามีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลในระดับสูงอีกด้วย

แนวทางการจัดการและบรรเทาอาการ เสียงดังในหู

       แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผลกับทุกคน แต่ก็มีแนวทางที่มีประสิทธิภาพและอ้างอิงหลักฐานที่เชื่อถือได้ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณควบคุมการรับรู้เสียงและลดผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แม้ว่าอาการจะยังคงอยู่ก็ตาม ต่อไปนี้เป็นแนวทางการจัดการและบรรเทาอาการเสียงดังในหู

เสียงบำบัด หูอื้อ

• การบำบัดด้วยเสียง (Sound Therapy) : เป็นวิธีที่ใช้เสียงจากภายนอก เช่น เสียงธรรมชาติ หรือเสียงสีขาว เพื่อกลบหรือเบี่ยงเบนความสนใจจากเสียงรบกวนในหู หลักการคือเมื่อมีเสียงรอบข้างที่ชัดเจนขึ้น สมองจะสนใจเสียงนั้นมากกว่าเสียงหูอื้อที่เกิดขึ้น

• การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy – CBT) : การบำบัดรูปแบบนี้ไม่ได้มุ่งรักษาที่อาการโดยตรง นักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์จะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนปฏิกิริยาทางอารมณ์และความคิดเชิงลบที่มีต่ออาการเสียงดังในหู ซึ่งช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่อาจทำให้อาการแย่ลง

• การบำบัดฟื้นฟูการได้ยินในหู (Tinnitus Retraining Therapy – TRT) : วิธีนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการบำบัดด้วยเสียงกับการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อฝึกสมองให้คุ้นชินและเรียนรู้ที่จะกรองเสียงในหูออกไปได้เอง คล้ายกับการที่เราไม่รู้สึกถึงแว่นตาที่สวมอยู่บนจมูกอีกต่อไปเมื่อเวลาผ่านไป

• เครื่องช่วยฟัง : เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการเสียงดังในหูมาพร้อมกับการสูญเสียการได้ยิน เครื่องช่วยฟังจะช่วยเพิ่มระดับเสียงจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สมองได้รับสิ่งกระตุ้นภายนอกที่จำเป็น ซึ่งจะช่วย “ลด” การรับรู้เสียงภายในได้ นอกจากนี้เครื่องช่วยฟังดิจิทัลสมัยใหม่หลายรุ่นยังมีโปรแกรมบำบัดเสียงในหู (Tinnitus SoundSupport) ในตัว ทำให้สามารถเล่นเสียงที่ผ่อนคลายเพื่อบรรเทาอาการได้โดยตรง

แนวทางเพิ่มเติม เพื่อช่วยบรรเทาอาการ

       นอกเหนือจากการบำบัดเฉพาะทางแล้ว การแก้ไขปัญหาที่อาจเป็นต้นเหตุของอาการก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

• แก้ไขปัญหาสุขภาพพื้นฐาน : การรักษาภาวะต่างๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือนอนไม่หลับ สามารถช่วยลดผลกระทบจากอาการเสียงดังในหูได้

• การปรับพฤติกรรม : หากอาการเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น การกัดฟัน หรือความตึงเครียดของกล้ามเนื้อคอ การนวดบำบัดอาจช่วยบรรเทาอาการได้

• การพิจารณายา : หากอาการเสียงดังในหูเป็นผลข้างเคียงจากยาที่คุณใช้อยู่ เช่น แอสไพริน หรือยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด การปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณยาหรือเปลี่ยนยาอาจช่วยให้อาการดีขึ้นได้

       แม้ว่าบางครั้งอาการเสียงดังในหู อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนและไม่มีการสูญเสียการได้ยินร่วมด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการไม่เพิกเฉยต่อสัญญาณที่ร่างกายกำลังเตือน

       หากคุณหรือคนรอบข้างมีอาการเสียงดังในหูอย่างต่อเนื่อง สิ่งแรกที่ควรทำ คือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และหาแนวทางในการจัดการอาการอย่างเหมาะสม อย่าปล่อยให้เสียงดังในหูรบกวนคุณภาพชีวิตของคุณ เพราะการรับมือกับมันตั้งแต่เนิ่นๆ คือ กุญแจสำคัญสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

บรรเทาอาการเสียงดังในหู ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมให้คำแนะนำ

เมื่อผลตรวจปกติ ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างปกติ

       ผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน พบว่า ผู้ป่วยเสียงดังในหูหลายรายที่มีผลตรวจการได้ยินปกติ อาจมีความเสียหายแฝงที่ยังไม่รุนแรงพอที่จะตรวจพบด้วยการทดสอบทั่วไป ความเสียหายนี้มักเกิดจากการได้รับเสียงดังเป็นเวลานาน เช่น เสียงเพลงหรือเครื่องจักรที่ดัง หรือแม้แต่เสียงดังรุนแรงในครั้งเดียว เช่น เสียงระเบิด ทั้งนี้การจะทำให้การได้ยินเปลี่ยนแปลงจนตรวจพบได้ด้วยการทดสอบ Pure-Tone ต้องมีการสูญเสียเซลล์ขนจำนวนมาก การทดสอบที่ละเอียดกว่าอย่าง OAE และ ABR อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ขอขอบคุณข้อมูล : ¹pmc.ncbi.nlm.nih.gov, newsinhealth.nih.gov, www.webmd.com, Dr. Ben Thompson, Au.D., (2025), Condition that causes ringing in ears: www.treblehealth.com
logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

 

ทดสอบการได้ยิน
ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เปิดบริการ จ. – ส. เวลา 8.30 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Tel Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai  Line Official Intimex Chiangmai

ระยะเวลาการปรับตัว สำหรับผู้เริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟัง

สูญเสียการได้ยิน รายละเอียดเสียงที่ขาดหายไป

       เมื่อสูญเสียการได้ยินเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป การได้ยินเสียงต่างๆ รอบตัวเริ่มเบาลงอย่างช้าๆ จนไม่ได้ยินและหลงลืมรายละเอียดเสียงสิ่งรอบตัวไป เสียงนกร้อง เสียงหยดน้ำ เสียงใบไม้ หรือแม้แต่เสียงลมหายใจ คุณยังได้ยินหรือจดจำเสียงเหล่านี้ได้อยู่ไหม เสียงเหล่านี้คือเสียงที่อยู่ในชีวิตประจำวัน และเป็นเสียงที่คนหูปกตินั้นได้ยิน

       รู้หรือไม่! เสียงลมหายใจมนุษย์เรา มีความดังอยู่ที่ 10 dB เสียงกระซิบ มีความดังอยู่ในช่วง 20 – 30 เดซิเบล และเสียงพูดทั่วไป มีความดังอยู่ที่ 40 – 60 เดซิเบล

เครื่องช่วยฟัง เรียกคืน รายละเอียดเสียงที่ขาดหายไป

เสียง เด็กผู้หญิง

       รายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่รอบตัวจะกลับคืนมาให้คุณได้ยินอีกครั้ง หากคุณกำลังเริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟัง อย่าเพิ่งใจร้อนที่จะฟังมันได้ดี เพราะทุกเสียงจะถูกส่งเข้ามายังเครื่องช่วยฟังของคุณ ช่วงแรกคุณอาจรู้สึกอึดอัดกับเสียงที่เข้ามายังหูของคุณมากมาย ข้อมูลเสียงจากทุกทิศทางและอาจทำให้คุณรู้สึกรำคาญได้

       หากคุณรู้สึกเช่นนี้ ขอให้คุณเริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟังในที่ที่เงียบก่อน เริ่มต้นจากบ้านของคุณ สมองของคุณกำลังประมวลผลและจำแนกเสียงที่ได้ยิน เสียงนาฬิกาที่กำลังเดิน เสียงตู้เย็น เสียงน้ำไหล หูและสมองกำลังปรับตัวอย่างช้าๆ ค่อยๆ เรียนรู้เสียงที่ไม่ได้ยินมานาน คุณจำเป็นต้องให้เวลากับมัน เช่นเดียวกับการที่คุณปล่อยให้หูของคุณค่อยๆ ได้ยินลดลง

บ้าน คือ จุดเริ่มต้นที่ดี ในการเริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟัง หากคุณเป็นผู้ไม่มีประสบการณ์การใส่เครื่องช่วยฟังมาก่อน

ระยะเวลาการปรับตัว สำหรับผู้เริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟัง

ระยะเวลาการปรับตัว เข้ากับเครื่องช่วยฟัง ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?

ใส่เครื่องช่วยฟัง ที่บ้าน

       การปรับตัวให้คุ้นเคยกับเครื่องช่วยฟังเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

       • ระยะเวลา 2 – 3 สัปดาห์แรกในช่วงแรก คุณอาจรู้สึกว่าเสียงบางอย่างดังเกินไปหรือฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ นั่นเป็นเรื่องปกติเพราะสมองของคุณกำลังทำความคุ้นเคยกับเสียงใหม่ๆ ที่เครื่องช่วยฟังขยายเข้ามา การใส่เครื่องช่วยฟังบ่อยๆ จะช่วยให้คุณปรับตัวได้เร็วขึ้น

       • ระยะเวลา 4 – 6 เดือน : เมื่อเวลาผ่านไป สมองของคุณจะเริ่มเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับเสียงที่ได้ยิน ทำให้เสียงต่างๆ ฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น การใส่เครื่องช่วยฟังอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สมองของคุณประมวลผลเสียงได้ดีและมีประสิทธิภาพขึ้น

       คุณอาจต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน หรือมากกว่านั้นในการได้รับประโยชน์จากเครื่องช่วยฟังอย่างเต็มที่ ซึ่งระยะเวลาการปรับตัวขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การให้เวลาตัวเองอย่างเพียงพอจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด [เรียนรู้…10 เทคนิค การเริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟัง]

ติดตาม การใช้งานเครื่องช่วยฟัง สำคัญอย่างไร?

Noviced ผู้เริ่มต้น
ระดับความดังเสียง 80%
เสียงเด็กผู้หญิง

       ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับเครื่องช่วยฟังได้อย่างราบรื่น ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟังจะเริ่มจากการปรับระดับเสียงให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเล็กน้อย ที่ระดับ 80% (Noviced) สำหรับผู้เริ่มต้นไม่มีประสบการณ์การใส่เครื่องมาก่อน เพื่อไม่ให้เสียงดังเกินไปหรือทำให้คุณตกใจ และในการนัดติดตามครั้งถัดไป ผู้เชี่ยวชาญจะค่อยๆ ปรับเพิ่มระดับเสียงให้สูงขึ้น 100% (Experienced) เพื่อให้คุณคุ้นเคยกับเสียงที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งในช่วงระยะ 1 – 2 เดือนแรกคุณอาจจำเป็นต้องพบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับประโยชน์สูงสุด

อ่านหนังสือ ห้องเงียบ ที่บ้าน

       เคล็ดลับสำคัญในการปรับตัวให้คุ้นชินกับเครื่องช่วยฟัง คือ การสวมใส่อย่างสม่ำเสมอ ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้คุณใส่เครื่องช่วยฟังวันละ 12 – 18 ชั่วโมง ทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน เพราะยิ่งใส่บ่อยมากเท่าไหร่ สมองก็จะยิ่งปรับตัวได้เร็วขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้คุณลองใส่ตลอดทั้งวัน แม้แต่ตอนอยู่บ้านคนเดียว หรือทำกิจกรรมเบาๆ อย่างการอ่านหนังสือ เพื่อให้สมองของคุณได้ฝึกรับฟังเสียงอย่างเต็มที่

ความสม่ำเสมอ

หัวใจสำคัญสู่การได้ยินที่มีคุณภาพ

       ความสม่ำเสมอจึงไม่เพียงแค่การใส่เครื่องช่วยฟัง แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพการได้ยินอย่างรอบด้านถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต การใช้เครื่องช่วยฟังอย่างถูกวิธีและต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพการได้ยินในระยะยาว

ใส่เครื่องช่วยฟัง ในบ้าน

√ สวมใส่เครื่องช่วยฟังอย่างสม่ำเสมอ : การใส่เครื่องช่วยฟังเป็นประจำในทุกกิจกรรมจะช่วยให้สมองได้เรียนรู้และปรับตัวกับการรับเสียงที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ ทำให้คุณภาพการสื่อสารและการได้ยินดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

√ ดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ : การดูแลรักษาเครื่องช่วยฟังให้สะอาดอยู่เสมอตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ป้องกันความเสียหาย และรักษาประสิทธิภาพของเครื่องช่วยฟังให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

√ การติดตามการใช้งานและการตรวจการได้ยินประจำปี : การเข้ารับการตรวจเช็กเครื่องช่วยฟัง รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตามกำหนด และตรวจการได้ยินเป็นประจำทุกปี จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องช่วยฟังยังคงเหมาะสมกับระดับการได้ยินในปัจจุบัน

เก็บทุกรายละเอียดเสียง

สร้างความทรงจำที่น่าประทับใจ

 

      ปัญหาการได้ยินไม่ได้จบลงแค่การใส่เครื่องช่วยฟังแล้วได้ยินเพียงเท่านั้น แต่หมายถึงการขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของคุณให้ดีขึ้น ใช้ชีวิตได้เต็มศักยภาพมากขึ้น การปรับตัวเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา หากคุณรู้สึกไม่คุ้นชินหรือไม่แน่ใจว่าเครื่องช่วยฟังช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้อย่างไร ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและปรับแต่งเครื่องที่เหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยคุณวิเคราะห์ปัญหาและให้แนวทางในการฝึกฝนเพื่อการใช้งานที่ถูกต้องที่สุดได้

        การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพเริ่มต้นจากคุณ เริ่มต้นเส้นทางใหม่ไปพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินของเรา เพื่อให้ทุกเสียงรอบตัวกลับมาเติมเต็มชีวิตของคุณอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมสนับสนุนการได้ยินของคุณ

ขอขอบคุณข้อมูล : ascdocs.com, bayaudiology.co.nz
logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

 

ทดสอบการได้ยิน
ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เปิดบริการ จ. – ส. เวลา 8.30 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Tel Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai  Line Official Intimex Chiangmai

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล Personalized Hearing Aids

การได้ยินแตกต่าง

เครื่องช่วยฟังจึงแตกต่าง

ค้นพบ…

เส้นทางสู่การได้ยินที่ดีขึ้น

       หากคุณกำลังประสบปัญหาการได้ยินและต้องการให้การได้ยินของคุณกลับมาได้ยินอีกครั้ง สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นด้วยวิธีที่ถูกต้อง พาตัวเองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือร้านจำหน่ายเครื่องช่วยฟังที่ได้มาตรฐาน

       ที่นั่น คุณจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและคำแนะนำที่เหมาะสม รวมถึงแนวทางการรักษาหรือฟื้นฟูการได้ยินที่ตรงกับปัญหาของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณกลับมาได้ยินเสียงต่างๆ ในชีวิตได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง

เลือกเครื่องช่วยฟัง

       ปัญหาการได้ยินเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับสมอง หากคุณต้องการมีการได้ยินที่ดีขึ้น ตรวจการได้ยินหรือทดสอบการได้ยิน ถือเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของเส้นทางสู่การได้ยินที่ดีขึ้น ขั้นตอนที่ทำให้คุณทราบระดับการสูญเสียการได้ยิน และเพิ่มโอกาสในการเลือกประเภทเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสม ในขั้นตอนต่อไป

รู้หรือไม่! สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง เครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมจัดอยู่ประเภท เครื่องช่วยฟังกำลังขยายสูง (High Power)

สูญเสียการได้ยิน สูญเสียความมั่นใจ

เรียกความมั่นใจกลับคืนมาด้วย เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล

เครื่องช่วยฟัง นักธุรกิจ ออกรอบ ตีกอล์ฟ

       การสูญเสียการได้ยินอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์เมื่อคุณต้องเข้าสังคม การแสดงท่าทีที่เรียบเฉยอาจไม่เป็นผลดี และการพยักหน้าหรือยิ้มรับเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดคิดว่าคุณเห็นด้วย ซึ่งความจริงแล้วคุณเพียงได้ยินไม่ชัดเจน ทำให้คุณเลือกที่จะนิ่งเฉย ยิ้ม หรือพยักหน้าเท่านั้น

       การได้ยินที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพที่ดี เครื่องช่วยฟังเฉพาะบุคคลไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณได้ยินชัดขึ้น แต่ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพความมั่นใจ ด้วยรูปทรงที่มีขนาดเล็ก ดีไซน์ทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคุณ

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล เครื่องช่วยฟัง ในช่องหู
เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล ตีกอล์ฟ

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล

Personalized Hearing Aids

       Personalized Hearing Aids เครื่องช่วยฟังเฉพาะบุคคล หรือเครื่องช่วยฟังแบบสั่งทำพิเศษ ได้รับการออกแบบมาให้พอดีกับช่องหู โค้งรับกับสรีระ และรองรับระดับการสูญเสียการได้ยินเฉพาะบุคคล พิถีพิถันด้วยขั้นตอนการพิมพ์ช่องหูของแต่ละบุคคล ทำให้สวมใส่สบาย กระชับและแนบสนิทกับช่องหู การรับฟังมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น ชัดเจนขึ้นกว่าเครื่องช่วยฟังทั่วไป ประสบการณ์การฟังที่ดีขึ้นในทุกสถานการณ์ที่คุณต้องการ

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล กำลังขยายสูง
เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล กำลังขยายสูง

Unique เฉพาะตัว

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล

       การได้ยินแตกต่าง เครื่องช่วยฟังจึงแตกต่าง ไม่เหมือนใครด้วยการพิมพ์ช่องหูแต่ละบุคคล ไม่เหมือนใครด้วยการปรับรายละเอียดเสียงตามระดับการได้ยินรายบุคคล และไม่เหมือนใครด้วยโหมดการฟังตามไลฟ์สไตล์ของคุณเอง โหมดการฟังรูปแบบเฉพาะเจาะจง เช่น กิจกรรมที่คุณชื่นชอบ สถานที่ที่คุณโปรดปราน หรือแม้แต่ช่วงเวลาพิเศษ เทศกาลวันสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การรับฟังที่ยอดเยี่ยม

BTE เครื่องช่วยฟัง สูงวัย
เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล ผู้สูงอายุ

Solutions การได้ยิน

เคล็ดลับเพิ่มความมั่นใจ

       การได้ยินที่ชัดเจนช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจของคุณ เครื่องช่วยฟังเฉพาะบุคคลคือหนึ่งในตัวช่วยให้คุณกลับมาได้ยินและช่วยเพิ่มความมั่นใจ

       หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจหรือเขินอายเมื่อต้องใส่เครื่องช่วยฟัง ลองปรับเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เช่น การเลือกทรงผมที่เข้ากับใบหน้าและเครื่องช่วยฟัง หรือเพิ่มเครื่องประดับอย่างเช่นหมวก แว่นตา หรือผ้าคาดศีรษะเข้ามาช่วยเสริมการแต่งตัว เมื่อคุณรู้สึกดีกับตัวเองจากภายใน ความมั่นใจก็จะออกมาเองโดยธรรมชาติ

เครื่องช่วยฟัง ไลฟ์สไตล์
เครื่องช่วยฟัง ไลฟ์สไตล์

Machine Learning

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล

       เทคโนโลยีเครื่องช่วยฟังสมัยใหม่จะเรียนรู้การใช้งานเครื่องช่วยฟังของคุณ เพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดส่งผ่านไปยังหูของคุณได้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังหรือเงียบก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการได้ยิน โดยเน้นเสียงพูดในสถานการณ์ที่มีเสียงรบกวน และให้เสียงรอบข้างนุ่มนวลลงอย่างเป็นธรรมชาติ

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล วัยรุ่น 2
เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล วัยรุ่น
ITE-hearing aid-type

IN THE EAR

เครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู เครื่องช่วยฟังสั่งทำพิเศษ รูปทรงตามช่องหูบุคคล

ZERENA 1 BTE

BEHIND THE EAR

เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังใบหู ใช้งานคู่กับพิมพ์หูสั่งทำพิเศษ รูปทรงตามช่องหูบุคคล

ZERENA 1

RECEIVER IN THE EAR

เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังใบหู มีลำโพงในช่องหู ใช้งานคู่กับจุกยาง หรือพิมพ์หูสั่งทำพิเศษ รูปทรงตามช่องหูบุคคล

เครื่องช่วยฟัง กำลังขยายสูง

HIGH POWER

เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลัง กำลังขยายสูง ใช้งานคู่กับพิมพ์หูสั่งทำพิเศษ รูปทรงตามช่องหูบุคคล

ทำไมต้อง

เครื่องช่วยฟัง เฉพาะบุคคล

√ ความสบายที่เหนือกว่า : พิมพ์หูเฉพาะบุคคลออกแบบมาให้สวมใส่ได้กระชับและพอดีกับช่องหู ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน

√ คุณภาพเสียงที่เป็นธรรมชาติ : ด้วยการตั้งค่าที่ปรับให้เข้ากับการได้ยินของคุณโดยเฉพาะและการออกแบบที่แนบสนิทกับช่องหู คุณจะได้ยินเสียงที่คมชัดและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

√ ลดเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพ : อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อคุณจะช่วยแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้คุณสื่อสารได้ดีขึ้นแม้ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง

√ ดีไซน์ที่ดูดีและกลมกลืน : เครื่องช่วยฟังเฉพาะบุคคลหลายรุ่นมีดีไซน์ที่เล็กและทันสมัย ทำให้แทบมองไม่เห็นเมื่อสวมใส่ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน

√ การเชื่อมต่อที่หลากหลาย : บางรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีบลูทูธที่ช่วยให้คุณสตรีมเสียงจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ หรือเพลง ได้โดยตรงเข้าสู่เครื่องช่วยฟัง

      ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง ผู้ช่วยออกแบบการได้ยินให้กับคุณ พร้อมให้คำแนะนำการเลือกเครื่องช่วยฟังที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และบุคลิกภาพของคุณได้อย่างลงตัว เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ กลมกลืน และมั่นใจในทุกการเข้าสังคม

ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง พร้อมสนับสนุนการได้ยินของคุณ

การได้ยินดี

ความมั่นใจกลับคืนมา

logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องช่วยฟัง บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

อินทิเม็กซ์ เชียงใหม่

ดูแลลูกค้าครอบคลุมพื้นที่โซนภาคเหนือ ต่างจังหวัด

มั่นใจในคุณภาพ และมาตรฐานการให้บริการจากอินทิเม็กซ์

ภายในศูนย์

Bernafon swiss engineering

        อินทิเม็กซ์ เราได้คัดสรรเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ยี่ห้อเบอร์นาโฟน (Bernafon) ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับสูงในการควบคุมจัดการเสียงที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการคิดค้นและพัฒนาโดยทีมงานนักวิจัยและวิศวกรจากแลปวิจัยเบอร์นาโฟน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มากด้วยความรู้ความชำนาญในอุตสาหกรรมมากกว่า 70 ปี ให้กับลูกค้าของเรา

        Bernafon เครื่องช่วยฟังยี่ห้อเดียวในโลกที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะ รองรับหน่วยเสียงวรรณยุกต์ภาษาไทย เพิ่มขีดจำกัดการขยายความคมชัดของเสียงคำพูด ลงลึกถึงหน่วยเสียงระดับพยางค์ และมีรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัย รูปทรงโค้งมนรับกับสรีระ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ขนาดเล็กกะทัดรัด รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

2-Hearing-aids

 

ทดสอบการได้ยิน
ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เปิดบริการ จ. – ส. เวลา 8.30 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Tel Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai  Line Official Intimex Chiangmai

เข้าใจ ผู้สูงอายุ หูตึง แนวทางการปรับตัวในวัยผู้สูงอายุ

เข้าใจ ผู้สูงอายุ หูตึง สนับสนุนการได้ยินอย่างเหมาะสม พร้อมแนวทางการปรับตัวสู่สูงวัยอย่างมีความสุข เพื่อให้ผู้สูงอายุที่คุณรักมีสุขภาพการได้ยินดี คุณภาพชีวิตดี

ลดความเสี่ยง ภาวะสมองเสื่อม ในผู้สูงอายุหูไม่ได้ยิน

หูไม่ได้ยิน เสี่ยงสมองเสื่อม

“สมอง คือ ศูนย์กลางคอยควบคุมและสั่งการอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์อย่างแท้จริง”

รู้หรือไม่!…การได้ยินมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับสุขภาพสมองของเรา การสูญเสียการได้ยินที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะสมองเสื่อม เรียนรู้ภาวะสมองเสื่อม ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในผู้สูงอายุหูไม่ได้ยิน พร้อมแนวทางสำหรับผู้สูงอายุห่างไกลภาวะสมองเสื่อมนี้มากที่สุด

Brain

สมองฝ่อ

สูญเสียการได้ยิน ที่ไม่ได้รับการรักษา

        การสูญเสียการได้ยินเพียงเล็กน้อยสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้

      ดร.สตีเวน ออลเดอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาจาก Re:Cognition Health อธิบายว่า การสูญเสียการได้ยินอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม เนื่องจากจะลดปริมาณการกระตุ้นทางการได้ยินที่สมองได้รับ ปัจจัยนำเข้าที่ลดลงนี้เชื่อว่ามีส่วนทำให้เกิดการแยกตัวทางสังคม ลดการมีส่วนร่วมทางปัญญา และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมองเมื่อเวลาผ่านไป”

       นั่นหมายความว่า เมื่อสมองได้รับสิ่งกระตุ้นน้อยลงจากการได้ยินที่บกพร่อง สมองก็อาจจะฝ่อและหดตัวลงได้

       “ยิ่งคุณรอการรักษานานเท่าไหร่ สมองก็ยิ่งมีปัญหาในการทำความเข้าใจและประมวลผลข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น” คุณอาจได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังพูด แต่สมองของคุณกำลังพยายามทำความเข้าใจคำพูด บางคนอาจรู้สึกเหมือนตนเองมีความบกพร่องทางสติปัญญา แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการสูญเสียการได้ยิน

“สูญเสียการได้ยินเพียงเล็กน้อย เพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะสมองเสื่อม…2 เท่า

3 เท่า เมื่อสูญเสียการได้ยินระดับปานกลาง และ 5 เท่า เมื่อสูญเสียการได้ยินอย่างรุนแรง”

ภาวะสมองเสื่อม (Dementia)

คืออะไร ทำไมจึงน่ากลัว

สมองเสื่อม ผู้สูงอายุ

       ภาวะสมองเสื่อม คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานของสมองที่เสื่อมลง ทำให้เกิดความบกพร่องทางสติปัญญา เช่น ความจำ การคิด การใช้เหตุผล การแก้ปัญหา และการสื่อสาร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ภาวะนี้จึงน่ากลัวเพราะทำให้ผู้ป่วยมีภาวะทุพพลภาพและภาวะพึ่งพาไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องการความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง  และส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล

• ระยะต้น อาการมีเพียงเล็กน้อย เช่น เริ่มมีอาการหลงลืม เสียความจำระยะสั้น ลืมสถานที่ที่คุ้นเคย แต่สุดท้ายอาจจะนึกได้

• ระยะกลาง อาการเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น เริ่มหลงลืมเหตุการณ์ที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา หลงลืมชื่อคน จำทางกลับบ้านไม่ถูก มีปัญหาด้านการสื่อสารกับคนรอบข้าง ต้องการผู้ดูแล มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปเช่นหนีออกจากบ้าน ถามคำถามเดิมซ้ำๆ

• ระยะท้าย ในระยะนี้ผู้สูงอายุอาจเริ่มมีภาวะพึ่งพิงโดยสมบูรณ์เนื่องจากมีการบกพร่องในการรู้คิดชัดเจนมากขึ้น อาการในระยะนี้ ได้แก่ ไม่ทราบและไม่สนใจเวลาและสถานที่ จำชื่อคนใกล้ตัวหรือเพื่อนไม่ได้ พฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเช่นพฤติกรรมก้าวร้าว ด่าทอ ไม่ทราบอารมณ์และความรู้สึกของคู่สนทนา เป็นต้น

ตกใจ

       รู้หรือไม่! โรคสมองเสื่อมร้อยละ 90 จะเกิดกับวัยสูงอายุ 60 – 65 ปี พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และสมองเสื่อมก่อนวัยอันควร พบได้ร้อยละ 10 ในผู้ป่วยอายุก่อน 65 ปี

2 แนวทาง

ลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม ในผู้สูงอายุ

รับประทานอาหารร่วมกัน

แนวทางที่ 1

ตรวจสอบการได้ยิน ดูแลสุขภาพสมองของผู้สูงอายุที่บ้าน

       การได้ยินเกิดขึ้นที่สมอง เมื่อหูไม่สามารถรับเสียงได้ สมองก็จะไม่ได้ยิน ไม่เข้าใจความหมาย เราสามารถทดสอบความสามารถทางสมองของผู้สูงอายุที่บ้านได้เป็นประจำ ด้วยการซักถามในเรื่องของเวลา สถานที่ ความจำ การนึกคิด ความจำระยะสั้น การเรียกชื่อ การพูดตาม การทำตามคำบอก และการเขียน เช่น

“มื้อเช้าทานอะไร?”
“มื้อเที่ยงทานข้าวกับอะไร?”
“มื้อเย็นอยากทานอะไร?”
“วันนี้ทำอะไรบ้าง?”
“วันนี้ไปที่ไหนมาบ้าง?”

       คำถามที่ดูธรรมดาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยฝึกสมอง ความจำ ความคิด และทดสอบการได้ยินของผู้สูงอายุ แต่ยังเสริมสร้างการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว อีกทั้งยังช่วยในการเช็คลิสต์มื้ออาหารที่ผู้สูงอายุรับประทานว่าได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอหรือไม่ สารอาหารใดควรเพิ่มเติม หรือควรเพิ่มกิจกรรมใดให้กับผู้สูงอายุ

       นอกจากนี้ ตรวจการได้ยิน เป็นประจำทุกปี วิธีการเฝ้าระวังการสูญเสียการได้ยินและภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ การตรวจการได้ยินจะช่วยหาสาเหตุของความบกพร่องว่ามีความบกพร่องทางการได้ยินหรือมีความบกพร่องทางสติปัญญา เพื่อการรักษาและป้องกันภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้อย่างทันท่วงที

ตกใจ

พิจารณาเครื่องช่วยฟัง เมื่อสูญเสียการได้ยิน ลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม

       หากพบว่าผู้สูงอายุมีการสูญเสียการได้ยิน การพิจารณาเครื่องช่วยฟังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าแก้ไข การใช้เครื่องช่วยฟังจะช่วยให้สมองได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงของการแยกตัวทางสังคม และคงไว้ซึ่งการมีส่วนร่วมทางปัญญา

มื้ออาหาร เมดิเตอร์เรเนียน

แนวทางที่ 2

เพิ่ม มื้ออาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน สุขภาพสมองดี สุขภาพจิตดี

       นอกจากดูแลการได้ยินที่เป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงผู้สูงอายุกับสังคมแล้ว การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุก็สำคัญไม่แพ้กัน เพิ่มมื้ออาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน มื้ออาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม และยังมีสารอาหารในการช่วยบำรุงประสาทหูอย่างโอเมก้า 3 และแร่ธาตุสำคัญ

มื้ออาหาร Mediterranean Diet คืออะไร?

       มื้ออาหารเมดิเตอร์เรเนียน คือ รูปแบบการบริโภคอาหารที่อิงจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของผู้คนที่มีอายุยืนยาวในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกว่า 20 ประเทศ เช่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการบริโภคอาหารกลุ่มพืชและไขมันดีเป็นหลัก รวมทั้งผสมผสานองค์ประกอบการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารร่วมกันกับเพื่อนและครอบครัว และการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง

     งานวิจัยเผยว่า ผู้ที่รับประทานอาหารแบบ Mediterranean Diet มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ที่รับประทานเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม Alzheimer Disease และภาวะสมองเสื่อมจากโรค Parkinson ลดลง 13% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทาน นอกจากนี้ยังพิสูจน์แล้วว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตโดยรวม ช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าและภาวะวิตกกังวล และส่งเสริมการทำงานของสมองและสุขภาพจิตโดยรวม 

อาหารเมดิเตอร์เรเนียน Mediterranean Diet

พีระมิดอาหาร: แนวทางสู่สุขภาพที่ยั่งยืน

       พีระมิดอาหารแบ่งออกเป็นชั้นๆ โดยแสดงปริมาณและความถี่ของการบริโภคอาหารแต่ละประเภท จากฐานที่กว้างที่สุด คือรับประทานได้บ่อยที่สุด ไปจนถึงยอดที่เล็กที่สุด คือรับประทานน้อยที่สุด

ส่วนที่สำคัญที่สุดและเป็นรากฐานของพีระมิดนี้ไม่ได้เป็นอาหาร แต่เป็นวิถีชีวิตที่กระตือรือร้นและการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ถือเป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพที่ดีในแบบเมดิเตอร์เรเนียน

กลุ่มอาหารที่ควรบริโภคเป็นประจำทุกวัน และเป็นส่วนประกอบหลักของทุกมื้ออาหาร ได้แก่

ผักและผลไม้: เน้นการบริโภคที่หลากหลายและเพียงพอในแต่ละวัน
ธัญพืชไม่ขัดสี: เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท พาสต้าโฮลวีท ข้าวโอ๊ต และบัควีท
ถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดพืช: เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดทานตะวัน และเมล็ดฟักทอง
ถั่วเมล็ดแห้ง: เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วชิกพี และถั่วชนิดต่างๆ
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์: เป็นแหล่งไขมันหลัก ใช้ในการปรุงอาหารและเป็นน้ำสลัด
สมุนไพรและเครื่องเทศ: ใช้เพื่อเพิ่มรสชาติอาหารแทนการใช้เกลือหรือไขมันมากเกินไป

กลุ่มโปรตีนจากสัตว์ที่ควรบริโภคอย่างสม่ำเสมอ

ปลาและอาหารทะเล: แนะนำให้บริโภคอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะปลาที่มีไขมันดีสูง เช่น แซลมอน ซาร์ดีน แมคเคอเรล

กลุ่มอาหารเหล่านี้สามารถบริโภคได้ แต่ในปริมาณที่จำกัดกว่ากลุ่มชั้นที่ 2

ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ตและชีส (แนะนำชนิดไขมันต่ำ)
สัตว์ปีก เช่น ไก่ และไก่งวง
ไข่ สามารถบริโภคได้ในปริมาณที่พอเหมาะ

กลุ่มอาหารที่ควรบริโภคในปริมาณที่น้อยที่สุด หรือไม่บ่อยนัก ได้แก่

เนื้อแดง: เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ควรจำกัดปริมาณและไม่ควรกินบ่อย
เนื้อสัตว์แปรรูป: เช่น ไส้กรอก แฮม
ขนมหวานและของหวาน: ควรบริโภคเพียงเล็กน้อยและไม่บ่อย
อาหารแปรรูปและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

น้ำเปล่า: ควรดื่มให้เพียงพอในแต่ละวัน

ไวน์แดง: สามารถดื่มในปริมาณที่เหมาะสมพร้อมมื้ออาหาร (สำหรับผู้ใหญ่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ โดยแนะนำไม่เกิน 1 แก้วต่อวันสำหรับผู้หญิง และไม่เกิน 2 แก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย หากไม่ดื่มอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเริ่ม)

       ทั้งนี้ หลักการสำคัญของพีระมิดอาหารเมดิเตอร์เรเนียน คือ การเน้นอาหารจากธรรมชาติที่แปรรูปน้อยที่สุด ใช้ไขมันดี เน้นผักผลไม้ และโปรตีนจากปลาเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งเสริมสุขภาพที่ดีและอายุที่ยืนยาว

6 ประโยชน์ มื้ออาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีต่อสุขภาพ

       อาหารเมดิเตอร์เรเนียนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบการกินที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ เนื่องจากมีผลการวิจัยสนับสนุนมากมายถึงประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่

ลด ภาวะสมองเสื่อม หูไม่ได้ยิน

     1. สุขภาพหัวใจ : นักวิจัยชี้ว่า ผู้ที่รับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนมีความดันโลหิต ระดับคอเลสเตอรอล และระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า
     2. คุณภาพการนอนหลับ : อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนมีความเชื่อมโยงกับคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ และลดเวลาในการใช้นอนหลับ
     3. ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง : อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ไขมันดี และอาหารต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดได้
     4. สุขภาพจิต : อาหารเมดิเตอร์เรเนียนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยพัฒนาสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต นอกจากนี้ยังสามารถลดภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย
     5. โรคเบาหวาน : มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2
     6. การควบคุมน้ำหนัก : การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานอาหารนี้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งช่วยลดโอกาสในการมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน อาหารเมดิเตอร์เรเนียนเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก

       การรับประทานอาหารในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพหัวใจ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพสมองอีกด้วย เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไขมันดี และใยอาหาร ที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองและลดการอักเสบ

       การดูแลสุขภาพการได้ยินควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นสองแนวทางสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุที่คุณรัก

ดูแลสุขภาพการได้ยินคนที่คุณรัก ตรวจการได้ยินประจำปี ใส่เครื่องช่วยฟังเมื่อสูญเสียการได้ยิน

ผู้เชี่ยวชาญพร้อมสนับสนุนการได้ยิน

logo intimex อินทิเม็กซ์

 

อินทิเม็กซ์ บริการตรวจการได้ยิน จำหน่ายเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง ออกแบบการได้ยินตามไลฟ์สไตล์บุคคล ดูแลสุขภาพการได้ยินแบบองค์รวม ตลอดการเดินทางสู่การได้ยินดี เพราะเราเชื่อว่า…

 

 

“คุณภาพของการได้ยินที่ดี คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ทดสอบการได้ยิน
ทดลองเครื่องช่วยฟัง

053-271 533, 089 – 053 7111

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สุขภาพการได้ยินอินทิเม็กซ์ เชียงใหม่
เปิดบริการ จ. – ส. เวลา 8.30 –  16.30 น.
หยุดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Tel Intimex Chiangmai Facebook Intimex Chiangmai  Line Official Intimex Chiangmai

ขี้หูอุดตัน อุปสรรค ผู้ใช้งานเครื่องช่วยฟัง

ขี้หูอุดตัน หนึ่งในปัญหาของการได้ยินเสียงลดลง และหากเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานเครื่องช่วยฟังด้วยแล้ว ปัญหานี้อาจส่งผลต่อการใช้งานอุปกรณ์ ปัญหาสุขภาพ และปัญหาสุขอนามัยช่องหู